xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” นำทัพก้าวไกลเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดเหนือตอนบน ชูนโยบายสู้ฝุ่น-เหล้าแก้จน-เขตวัฒนธรรมชาติพันธุ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง/น่าน - “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นำทัพพรรคก้าวไกลเปิดตัว 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งลำปาง แพร่ น่าน ครบทุกเขต ชูนโยบายเหล้าชุมชนแก้จน เขตวัฒนธรรมพิเศษชาติพันธุ์ เปลี่ยนรถเมล์เก่าเป็น EV Bus เลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน แก้ฝุ่น


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำ ส.ส.พรรคก้าวไกล เช่น นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขตบางขุนเทียน รองเลขาธิการพรรค ได้ร่วมเดินสายจัดเวทีพบปะประชาชน-เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.น่าน แพร่ และลำปาง ค่ำวันที่ 3 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา บริเวณลานสวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง

ประกอบด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.น่าน 3 เขตเลือกตั้ง คือ เขต 1 นายเชาว์วิชญ์ อินน้อย (ไนซ์), เขต 2 นายอภิชาต จ่าแสน (ผู้ใหญ่ปอ) และเขต 3 นายเจริญ อภิภัทรโกศล (เจริญ), จังหวัดแพร่ 3 คน เขต 1 นายติรานนท์ เวียงธรรม (ทนายเคน), เขต 2 นายรฐรส เกิดสรรค์ (บีม) และเขต 3 นายภาวัช จันใส (จิต) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง 4 คน เขต 1 นางทิพา ปวีณาเสถียร หรือ ไก่ก้าวไกล ลำปาง,  เขต 2 นายกฤตภพ สติดีนิติวงศ์ หรือ เกตุ, เขต 3 นายชลธานี เชื้อน้อย หรือ เพียว และ เขต 4 นางสาวรภัสสรณ์ นิยะโมสถ หรือมิงค์

จากนั้น ส.ส.ของพรรคก้าวไกลคนสำคัญ ได้แก่ นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.ได้ขึ้นปราศรัย และปิดท้ายด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคฯ-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของพรรคก้าวไกล

นายพิธาบอกว่า ที่เลือกปราศรัย ณ ห้าแยกหอนาฬิกากลางเมืองลำปาง เพื่อจะบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันด้านเวลาที่เดินไปข้างหน้าไม่รอใคร ขอให้ชาวลำปางและพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเทคะแนนให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 10 คน เป็นสองเท่าของคะแนนที่ได้รับในครั้งที่ผ่านมา

“ลำปางเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย พรรคได้พยายามผลักดันเพื่อให้เกิดการดูแลสวัสดิการคือ บำนาญประชาชน 3,000 บาท ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เกือบทำได้แล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช้อำนาจปัดตก ไม่ให้แม้แต่โอกาสนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ”

ส่วนชาวจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดที่มีพี่น้องชาติพันธุ์หลายเผ่าอยู่อาศัย และที่ผ่านมาถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม ขอเพียงมีการผลักดันโดยผู้แทนในสภาฯ อีกเพียงเล็กน้อย ก็จะมีเขตวัฒนธรรมพิเศษให้พี่น้องชาติพันธุ์อยู่ร่วมกับป่าได้, จังหวัดแพร่ เกี่ยวกับเรื่องสุราชุมชน ที่จะเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ เปลี่ยนสินค้าเกษตรเป็นโอกาสของเกษตรกร แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราแพ้ไปแค่ 2 คะแนนในสภาฯ แต่เราก็เข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกที

“นี่คือเรื่องที่จะทำได้สำเร็จแน่นอนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคเป็นรัฐบาล คือการคืนความเท่าเทียมในการทำมาหากิน เปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ ทำสินค้าเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาได้ ย้อนไป 4 ปี ไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทลายทุนผูกขาดอย่างที่เราทำได้ แพ้แค่ 2 คะแนน ถ้าเราทำสำเร็จทุกวันนี้เศรษฐกิจจะไม่เป็นแบบนี้ ราคาข้าวไม่เป็นแบบนี้ ราคาอ้อยไม่เป็นแบบนี้ ราคาลำไยไม่เป็นแบบนี้ ราคามะม่วงไม่เป็นแบบนี้ ราคาสูงเมื่อไหร่เราส่งออก ราคาตกเมื่อไหร่เราทำเป็นเหล้าทำเป็นขวดราคาไม่ตก เก็บข้าวในโกดังราคามีแต่ลง เก็บข้าวไว้ในขวดราคามีแต่ขึ้น อยู่แค่ใกล้เอื้อมมือแค่นี้เราก็เกือบจะทำสำเร็จแล้ว”


วันเดียวกัน พรรคก้าวไกลยังได้เปิดเวทีพบปะประชาชนที่จังหวัดน่าน เสนอนโยบายรัฐสวัสดิการของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเรื่องเงินผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะปรับจาก 600 บาทต่อเดือน เป็น 3,000 บาทต่อเดือน

โอกาสนี้ นายพิธากล่าวถึงปัญหาฝุ่น pm 2.5 ว่าเป็นปัญหาที่มีต้นตอจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ หากเป็นเขตเมือง ก็มักเกิดจากรถยนต์ โรงงาน และการก่อสร้าง ส่วนในพื้นที่ชนบทมักเกิดจากการเผาไหม้จากภาคเกษตร การใช้พลังงานถ่านหิน หรือการเผาป่าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สาเหตุเหล่านี้เป็นที่รับรู้กันมายาวนาน แต่การแก้ไขปัญหาไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะโครงสร้างอำนาจที่มีปัญหา

กล่าวคือ ปัญหาของฝุ่น pm 2.5 เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แต่ความรับผิดชอบที่อธิบดีมีอยู่นั้น ไม่ได้มาพร้อมกับอำนาจ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษไม่สามารถสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษออกมาตรการเพื่อระงับฝุ่น pm 2.5 ได้ ผลก็คือที่ผ่านมามีเพียงการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ ซึ่งส่วนมากก็มักไม่ได้รับความร่วมมือกลับมา

นายพิธากล่าวอีกว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลเล็งเห็นว่าเป็นมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาในภาพใหญ่ คือด้านโครงสร้างอำนาจ จะต้องมีการผ่าน พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ฉบับใหม่ที่ให้อำนาจแก่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษสามารถบังคับใช้มาตรการควบคุมมลพิษได้ ส่วนปัญหาฝุ่นที่มีต้นตอในต่างประเทศ เราต้องมีนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นสากล สามารถใช้กลไกอาเซียนเพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาร่วมกับชาติอาเซียนได้

หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ส่วนมาตรการอื่นๆ นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรถเมล์เก่าให้เป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV bus) ทั้งหมดภายใน 7 ปี การส่งเสริมให้เกิด car free day ด้วยการงดเก็บค่าบริการขนส่งสาธารณะ การเลิกการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินภายในปี 2580 การกระจายอำนาจการดับไฟป่าไปให้ท้องถิ่น ไม่ให้อยู่ที่ส่วนกลางที่มีแต่ความไม่โปร่งใส และการแก้ปัญหาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาการเผาไหม้ป่า เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น