ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สึกแล้ว! พระอาจารย์โชค พระสงฆ์นักขุดทอง เจ้าตัวเผยเป็นคลิปเก่านานกว่า 10 ปีแล้วสมัยบวชเป็นเณร มีการลงโทษไปแล้วก่อนจะกลับมาบวชใหม่ ด้านเจ้าคณะอำเภอชี้เป็นการเลี่ยงบาลี แม้เกิดมานานแต่ปัจจุบันเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “อีซ้อขยี้ข่าว 2” โพสต์เฟซบุ๊กระบุเรื่องคาวโลกีย์เกี่ยวกับพระสงฆ์อีกครั้ง โดยโพสต์รข้อความแฉวงการพระสงฆ์ที่จังหวัดขอนแก่นว่า “แพรรี่ให้เวลา 3 วันกับพระนครสวรรค์ ส่วนซ้อให้เวลาถึงพรุ่งนี้ก่อนบ่าย 3 พระอาจารย์ ช ที่น้ำพอง หลังหลอกบังคับ กำโค้กและขืนใจเด็กชายให้กินผัดไทยกับตัวเอง พอจะแจ้งความใช้เงินปิดปากพ่อแม่”
พร้อมกันนี้ ทางเพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 ยังได้อธิบายความหมายกับศัพท์ใหม่ๆ ที่ใช้ในเรื่องดังกล่าวว่า “ผัดไทย คือแบบนี้ หัวท้าย พร้อมกับมีภาพประกอบเป็นตัวการ์ตูน และในข้อความเดียวกันยังระบุเอาไว้อีกว่า กำโค้ก คือ จับปู๋ มีคลิปหน้าชัด ปาราชิกแน่นอนเคสนี้”
ล่าสุดวันนี้ (30 ม.ค.) ที่วัดโพธิ์ศรี บ้านโคกสูง หมู่ 1 ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งระบุว่าเป็นวัดที่พระรูปดังกล่าวสังกัดอยู่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุบลรัตน์ ขับรถกระบะมาที่วัดและได้นิมนต์พระอาจารย์โชคไปพบพระมหาจริต วชิรเมธี เจ้าคณะอำเภอ ที่วัดเขื่อนอุบลรัตน์ และเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีด้วย ภายหลังจากทางเจ้าคณะอำเภอเรียกให้มาพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ทางเจ้าคณะอำเภอไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ทันทีที่พระอาจารย์โชคมาถึงวัดเขื่อนอุบลรัตน์ บ้านท่าเรือ หมู่ 3 ต.เขื่อนอุบลรัตน์ เข้าพบกับเจ้าคณะอำเภอ โดยคำแรกที่เจ้าคณะอำเภอถามกับพระอาจารย์โชค คือ รักตัวเองไหม โดยพระอาจารย์โชคก็บอกครับ แล้วทำไมถึงทำผิดพระวินัย แต่พระอาจารย์โชคก็ไม่ได้ยอมรับว่าเรื่องอะไร ก่อนจะถามกลับไปยังเจ้าคณะอำเภอ โดยเจ้าคณะอำเภอได้เปิดคลิปที่มีการเผยแพร่อยู่ในโซเชียลให้ดู พร้อมอ่านข้อความที่ระบุในโพสต์ดังกล่าว ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้พระอาจารย์โชคดูคลิปดังกล่าว
พระอาจารย์โชคไม่ได้ปฏิเสธและได้อธิบายว่า คลิปดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นมานานแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งเจ้าคณะอำเภออธิบายว่า ไม่ว่าจะกี่ปีก็ไม่หายจากพฤติกรรม ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควร ก่อนจะเทศน์สั่งสอนพระอาจารย์โชค ซึ่งพระอาจารย์โชคพยายามอธิบายว่าเรื่องดังกล่าวได้มีการลงโทษทางพระวินัยไปแล้วก่อนจะกลับมาบวชเณรอีกครั้ง ก่อนจะเป็นพระจำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรีบ้านเกิด
แม้ว่าพระอาจารย์โชคจะพยายามอธิบายให้กับทางเจ้าคณะอำเภอฟัง แต่ทางเจ้าคณะอำเภอมองว่าเป็นการเลี่ยงบาลี ซึ่งเป็นเรื่องเดิม แต่ก็เป็นประเด็นทางโซเชียลตอนนี้คือเรื่องใหม่ ซึ่งจะต้องทำการลาสิกขาไป โดยใช้อำนาจคณะสงฆ์ โดยเจ้าคณะอำเภอและรักษาการเจ้าอาวาส ก่อนที่พระอาจารย์โชคจะลาสิกขาและเปลี่ยนสวมใส่ชุดขาว ซึ่งเจ้าคณะอำเภอก็ได้ประสานตำรวจให้นำตัวขึ้นรถไปส่งที่บ้านเกิดทันที
หลังจากสึกแล้วก็กลับมาใช้ชีวิตสู่ทางโลก คือนายธนดร พื้นแสน อายุ 29 ปี โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามถึงกรณีดังกล่าวว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งนายธนดรบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องจริงซึ่งเกิดมานานแล้วและมีการลงโทษไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ขอพูดถึงอีก ก่อนจะเดินขึ้นรถตำรวจกลับบ้านไปทันที
จากการสอบถาม พ.ต.อ.เอกก์ พูลบวรรักษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากเจ้าคณะอำเภอได้ประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นิมนต์พระลูกวัดโพธิ์ศรี ที่ปรากฏในสื่อโซเชียลมาพบเจ้าคณะอำเภอ ในส่วนของทางตำรวจนั้นยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่เบื้องต้นตำรวจจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏสื่อ หากมีผู้เสียหายก็สามารถเข้ามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป