หนองคาย - “อุ๊งอิ๊ง” ควง นพ.ชลน่าน นำทีมอ้อนขอคะแนนเสียงชาวหนองคาย เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาล ชูนโยบายพรรคแก้ปัญหาปากท้อง
วันนี้ (28 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง, นายอดิศร เพียงเกษ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และทีมบริหารพรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ให้แก่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดหนองคาย ณ ลานอเนกประสงค์ ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ โดยมีชาวหนองคายมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
จังหวัดหนองคายมี 3 เขตการเลือกตั้ง โดยเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 มีนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์, เขต 2 นางสาวชนก จันทาทอง และเขต 3 นายเอกธนัช อินทร์รอด ซึ่งเวทีปราศรัยในวันนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร และนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย เน้นไปที่การล้างหนี้ เพิ่มรายได้ให้ประชาชน เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ขึ้นค่าแรงและเงินเดือนข้าราชการ เป็นต้น หลังจากปราศรัยในพื้นที่ อ.ท่าบ่อแล้ว ได้เดินทางต่อไปยังด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย และในช่วงบ่ายได้เปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อเช้าได้แวะกินข้าวจี่ที่ตลาดในตัวเมืองหนองคาย รสชาติอร่อยเหมือนโมจิผสมข้าวหลาม ชอบมาก และเป็นเมนูโปรดของคุณอาปู ยิ่งลักษณ์ เวลามีคนเอาไปให้ก็จะชอบหรือแม่บ้านทำให้ก็ชอบมาก นักข่าวถามปัญหาภายในที่มีการพูดถึงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ด้วย ซึ่งนายณัฐวุฒิ ตอบแทนว่าขออย่าไปขยายความอะไร เป็นปรากฏการณ์หนึ่งในสถานการณ์การเมืองซึ่งในที่สุดก็จะคลี่คลาย แพทองธารก็นำทัพพรรคเพื่อไทยเดินหน้าพบปะประชาชน ไม่ได้ไปตอบโต้หรือกระทบกระทั่ง ไม่ว่าจะกับคุณจตุพร หรือกับใคร เราจะเดินหน้าแบบนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง
นางสาวแพทองธารบอกว่า หนองคายมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งจังหวัด เราต้องกลับมาหาประชาชนแน่นอนเพราะชาวหนองคายให้การสนับสนุนเรามาโดยตลอดไม่ว่าสถานการณ์ไหน มาหนองคายทีไรก็อุ่นใจเสมอ พรรคเพื่อไทยเอานโยบายแลกกับความไว้ใจของประชาชน เราตั้งใจจะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นนโยบายหลักของเรา เราทำเราให้แข็งแรงและสื่อสารสิ่งที่อยากจะบอกกับประเทศชาติและประชาชน
ขณะที่นายณัฐวุฒิกล่าวเสริมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้น่าจะเป็นภาระของพรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่า ไม่ใช่ปัญหาของพรรคเพื่อไทยเพราะว่าเห็นพลเอก ประวิตร ตัวเดินช้าแต่ลีลาเดินเร็ว และเดินเร็วกว่าพลเอก ประยุทธ์หลายก้าวด้วย การดึงกลุ่มการเมืองต่างๆ เข้าพรรค แม้ว่าจะเป็นคนกันเอง ไม่ใช่คนหน้าใหม่และเป็นคนที่รวมตัวในพลังประชารัฐมาก่อนซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพลเอก ประวิตรมีบารมีและได้รับการยอมรับในฝ่ายตัวเองมากกว่าพลเอก ประยุทธ์อย่างเห็นได้ชัด
อย่างเมื่อวานก็มีการจบดีลกับกลุ่ม 4 กุมาร ในขณะที่พลเอก ประยุทธ์ตั้งแต่เปิดตัว เห็นมีแรมโบ้อีสานเป็นกำลังหลักอยู่คนเดียว แต่พรรคเพื่อไทยเราเดินหน้าเข้าหาประชาชน แพทองธารพร้อมจะเปิดนโยบายชุดใหญ่หลังการยุบสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นการรวมกันเดินแยกกันตีหรือไม่ พรรคเพื่อไทยจะวัดพลังได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เป็นอำนาจของประชาชนที่จะเป็นคนตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแรงพอไหมในการต่อสู้ การที่จะทำแคมเปญออกมาให้ประชาชนเป็นงานหนักที่ทุกคนต้องช่วยกัน อย่างอื่นพรรคเพื่อไทยไม่ได้โฟกัส พรรคเพื่อไทยหาเสียงอยากให้แลนด์สไลด์ การรวมพรรคอยากให้เป็นหลังเลือกตั้งดีกว่า ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะพูด
นายณัฐวุฒิกล่าวแทรกอีกครั้งว่า เราแข่งขันกับตัวเอง แข่งขันกับกติกาที่เอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด แข่งขันกับ 250 ส.ว.ซึ่งพลเอก ประวิตรเลือกให้พลเอก ประยุทธ์ตั้ง ดังนั้นทุกพรรคการเมืองเดินหน้าเตรียมการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน ส่วนจะประเมินพลังกันอย่างไรเป็นวิจารณญาณของประชาชน วันนี้พลเอก ประยุทธ์ไปภาคใต้ขึ้นเวทีในนามพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นครั้งแรก ส่วนอุ๊งอิ๊งก็มาปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดหนองคายเป็นครั้งแรก อาจเห็นการแลนด์สไลด์ในยุคประยุทธ์เป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มี 2 เวทีใหญ่ อุ๊งอิ๊งมีหมัดเด็ดอะไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หมัดเด็ดมีแต่นโยบายและความตั้งใจที่จะให้ประชาชนได้ทราบ ดังนั้นขอแลกด้วยความตั้งใจ หลังเลือกตั้งพรรคก้าวไกลจะจับมือกันต่อไปหรือไม่ แพทองธารบอกว่า เพื่อไทยกับก้าวไกลไม่เคยมีปัญหากัน และเชื่อว่าเราเป็นพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตย ดังนั้นการจับมือกันเป็นเรื่องของอนาคต