ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ครูบาไก่” ปฏิเสธทุกข้อร้องเรียนของอิคคิวและบุ๋ม ยันที่ดินสร้างที่พักสงฆ์ไม่ใช่ที่ของป่าไม้ ก่อนสร้าง จนท.ตรวจวัดหมดแล้ว ส่วนกรณีร่วมรักกับชายหนุ่มไม่ใช่ตนแน่นอนและได้ดูคลิปมาก่อนแล้ว ทุกเรื่องมีหลักฐานหักล้างได้หมด
จากกรณีล่าสุดที่อิคคิวและบุ๋มนำหลักฐานการบุกรุกที่ดินป่าไม้ของสำนักสงฆ์ที่มี “ครูบาไก่” หรือพระสุวิทย์ ชินวโร อายุ 30 ปี เป็นประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และภาพวิดีโอชายศีรษะโล้นกำลังร่วมรักกับชายหนุ่ม เข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.และ ปปง.เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากครูบาไก่ทั้ง 2 กรณี รวมถึงเส้นทางการเงินของพระรูปนี้ด้วย
ล่าสุดเช้าวันนี้ (26 ม.ค.) พระสุวิทย์ หรือครูบาไก่เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นที่ถูกกล่าวหาบุกรุกพื้นที่ป่าตนมีหลักฐานยืนยันชัดเจนตั้งแต่บุกเบิกหาที่ดินจนมาถึงการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มีหลักฐานการดำเนินงานถูกต้องทุกขั้นตอน ไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตของป่าไม้ตามที่ถูกร้องเรียน มีขอบเขตแบ่งแนวโดยทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการรังวัดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนมาก่อนที่จะมาสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้
“ประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันได้ว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ มีป่าเป็นแนวเขตกั้น และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองที่มีการร้องเรียนเรื่องเดิม ก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงมาตรวจสอบเหมือนเดิม เป็นเรื่องดีที่เจ้าหน้าที่จะได้เข้ามาตรวจพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง” ครูบาไก่กล่าวและว่า
สิ่งปลูกสร้างที่สร้างอยู่ปัจจุบันนี้อยู่นอกเขตของป่าไม้โดยเป็นที่ดิน ส.ป.ก.ที่ชาวบ้านได้ถวายให้วัดได้สร้าง บริเวณที่สร้างวิหารนั้นก็มีโฉนดถูกต้อง ญาติโยมสายบุญผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันซื้อถวายวัดเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา
พื้นที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้มีไม่ถึง 100 ไร่ จุดที่นำไปร้องเรียนนั้นเป็นที่ ส.ป.ก.เนื้อที่ 31 ไร่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เคยแนะนำอยู่ว่าหากจะสร้างวัดก็สามารถทำได้โดยจะแบ่งที่ ส.ป.ก.ให้ 15 ไร่ตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดในการสร้างวัด แต่ทางวัดใช้ที่ดินในการขอโฉนดสร้างวัดเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ ส.ป.ก. โดยมีเนื้อที่ 12 ไร่ เป็นที่ดินใบจอง น.ส.2 ที่ชาวบ้านนำมาถวายให้วัด มีเอกสารสิทธิครอบครองอย่างถูกต้อง
ในกรณีที่สงสัยนั้น ส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่าหากรุกล้ำในเขตป่าไม้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเริ่มแรกก็มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสอบถามว่าสามารถวัดได้ตรงไหนบ้างก็มีการแบ่งเขตชัดเจนจึงได้มีการสร้างขึ้น และที่ดินที่สร้างวัดนั้นมีทั้งที่ดินใบจอง น.ส.2 ที่ดิน ส.ป.ก.และที่ดินที่ญาติโยมร่วมทำบุญซื้อที่ดินมาถวาย ยืนยันว่าโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งหมด
ส่วนกรณีที่มีคลิปชายคนหนึ่งลักษณะเหมือนพระสงฆ์กำลังร่วมเพศกับชายหนุ่มอยู่ภายในห้อง ซึ่งทางอิคคิวได้นำคลิปดังกล่าวมาเข้าร้องเรียนต่อทางตำรวจกองปราบฯ ครูบาไก่บอกว่าเห็นคลิปนี้ตั้งแต่ก่อนจะมีการออกข่าวในวันนี้ โดยมีลูกศิษย์นำมาให้ดู ซึ่งก็ได้คุยกับลูกศิษย์อยู่ว่าเขาจะกล้าเอาคลิปอันนี้มาเผยแพร่จริงหรือ เพราะไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งก็นำออกมาจริงๆ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ตัวครูบาไก่อย่างแน่นอน
ในส่วนกรณีของทนายธรรมราชที่ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับประเด็นเปิดรับบริจาคทำบุญสร้างท้าวเวสสุวรรณขนาด 8 นิ้วโดยมีอิคคิวและบุ๋มเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในส่วนนี้ทางวัดไม่มีส่วนรับรู้เพราะเป็นเพียงสถานที่เท่านั้น ใครมาร่วมก็สามารถทำได้โดยทางเจ้าภาพคืออิคคิวและตนได้มาเสนออยากสร้างท้าวเวสสุวรรณทางวัดก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก่อนจะมีการเปิดรับบริจาคร่วมทำบุญสร้างแต่ก็ทิ้งไว้อย่างที่เห็นไม่มีการสร้างต่อแต่อย่างใด และวัดเองก็ยืนยันความบริสุทธิ์ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด
“หลักฐานทุกอย่างที่ทางอิคคิวนำไปร้องเรียนนั้น อาตมาก็มีหลักฐานทุกอย่างที่พร้อมจะให้ตรวจสอบและพร้อมที่จะมาชี้แจงทุกประเด็นเช่นกัน และไม่กังวลกับสิ่งที่ทางอิคคิวนำไปร้องเรียน” ครูบาไก่ยืนยัน และบอกอีกว่า
กรณีการเปิดรับบริจาคสร้างท้าวเวสสุวรรณนั้น ขณะนั้นทางอิคคิว และบุ๋มได้มาขอเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างท้าวเวสสุวรรณ สองต้นสูง 8 เมตร พร้อมกับศาลา ตอนนั้น นึกว่าทั้งสองคนจะนำเงินตัวเองมาสร้าง สุดท้ายเป็นการร่วมทำบุญใครสนใจที่จะสร้างก็ร่วมบริจาคเข้ามาในบัญชีอิคคิว จนถึงปัจจุบันก็ไม่เห็นมีการก่อขึ้น มีเพียงเสาเข็มอย่างที่เห็น ส่วนเงินที่ได้จากการบริจาคมีการอ้างว่าโอนเข้ามาในบัญชีวัดนั้นไม่เป็นความจริง เพราะบัญชีนั้นเป็นของอิคคิว เงินก็ต้องเข้าบัญชีอิคคิว ทางวัดเป็นแค่สถานที่ ถมดินขุดสระเท่านั้น เผื่องบประมาณ 400,000 บาทของทางวัด ส่วนการสร้างท้าวเวสสุวรรณกับศาลานั้นทางอิคคิวจะเป็นคนสร้างเองทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่นได้เรียกทางอิคคิวและบุ๋มพร้อมลูกศิษย์อีกสองคนมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามที่ครูบาไก่ได้แต่งตั้งทนายเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้
