ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ครูบาไก่” พร้อมทนายความตั้งโต๊ะชี้แจงทุกกรณีที่ถูกกล่าวหา โชว์หลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ทั้งเรื่องเงินและทองคำ ส่วนเรื่องชายหนุ่มชื่อ “เจน” และภาพของลับก็ไม่เป็นความจริง ยันไม่เคยรู้จัก ท้าถ้ามีตัวตนจริงให้ออกมาเจอกันที่วัด ทั้งนี้ ล่าสุดครูบาไก่ได้หอบหลักฐานชี้แจงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่นเรียบร้อยแล้วและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
มีรายงานข่าวแจ้งว่า บ่ายวันนี้ (15 ม.ค.) ที่ศาลาการเปรียญที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ “ครูบาไก่” ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม พร้อมนายธรรมชาติ สาระปัญญา ทนายความ เจ้าของโครงการกองบุญทนายความ เพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา และลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ครูบาไก่ถูกกล่าวหาว่าส่งภาพโชว์ของลับให้เด็กหนุ่มดู เลี้ยงผู้ชาย และเรื่องความไม่โปร่งใสในการเก็บรักษาทองคำบริจาคเกือบ 200 บาท รวมถึงอีกหลายประเด็น ที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งกล่าวหาว่าไม่มีความเหมาะสมและไม่โปร่งใส
นายธรรมชาติ สาระปัญญา ทนายความโครงการกองบุญทนายความ เพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา กล่าวเกริ่นนำก่อนว่า ที่ต้องมีการแถลงข่าวและการชี้แจงในครั้งนี้เนื่องจากครูบาไก่ถูกกล่าวหาในประเด็นต่างๆ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับวัด พระครูบาก็เสื่อมเสียด้วย โดยเฉพาะเรื่องรอยสักนั้น หลังจากเข้ามาช่วยเหลือดูแลครูบาไก่ก็มีการพูดคุยกัน จนทราบว่าครูบาไก่มีการสักยันต์ที่ข้อเท้ามาตั้งแต่บวชเณรจริงๆ แต่สักไม่สวยและสักเล็กๆ จึงได้มาสักซ้ำภายหลัง
ดังนั้นจึงขอยืนยันได้ว่าภาพถ่ายของลับตามที่มีคนเอามาใส่ร้ายครูบาไก่นั้น จึงไม่ใช่ภาพของครูบาไก่ ส่วนเรื่องเลี้ยงผู้ชายนั้น ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของครูบาหลายคนที่เข้ามาอยู่ในวัด ครูบาก็ดูแลลูกหลานทุกคน และเมื่อทุกคนเติบโต มีหน้าที่การงานสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ก็ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก แต่ยังไปมาหาสู่ครูบาเป็นประจำ
นายธรรมชาติชี้แจงต่อกรณีทองคำที่ญาติโยมทำบุญมา เพื่อหลอมเป็นพระนำไปบรรจุใต้ฐานพระพุทธรูปในพระวิหารนั้น ขณะนี้ทองคำเหล่านั้นยังอยู่ครบ ไม่ได้สูญหาย และมีที่จัดเก็บอย่างดี ส่วนการสร้างพระวิหารที่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากทางวัดมีเงินไม่พอ จึงยุติการก่อสร้างไว้ก่อน เบื้องต้นทางวัดทำการก่อสร้างฐานรากด้วยเงิน 6 ล้านบาท โครงหลังคา 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาทถ้วน และจ่ายค่าช่างไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้เป็นหนี้สินในการก่อสร้างแต่อย่างใด
ส่วนกรณีของชายหนุ่มที่ชื่อเจนนั้น ครูบาไก่ยืนยันว่าไม่รู้จัก และไม่ทราบว่าฝ่ายที่กล่าวหาเอาหลักฐานต่างๆ มาจากที่ใด ถ้านายเจนมีตัวตนจริงก็เอาตัวออกมายืนยัน เพราะหลังจากทราบเรื่องราวทั้งหมดครูบาไก่ได้มอบหมายให้ตนไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.มัญจาคีรี ให้ดำเนินคดีกลุ่มบุคคล 4 คนที่กล่าวหาครูบาไก่ ในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ร่วมกันใส่ความคณะสงฆ์ ร่วมกันแจ้งความเท็จ และข้อหา ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ครูบาไก่ได้นำหลักฐานต่างๆ ตามที่ถูกกล่าวหา รวมถึงทองคำที่ถูกกล่าวหาว่าหายไป รวมถึงรายละเอียดการก่อสร้างพระวิหารและเรื่องรอยสัก เข้าพบคณะสงฆ์และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกข้อกล่าวหาที่ถูกคนกลุ่มนั้นกล่าวหา ครูบาไก่ได้ปฏิเสธทั้งหมด
