ขอนแก่น - พี่ชายเผย “ครูบาไก่” ขอไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำโดยไม่มีกำหนด บอกลูกศิษย์และทางวัดจัดการกันไปก่อนยังไม่ขอยุ่งเรื่องทางโลก หลังอดีตโยมอุปัฏฐากออกมาแฉพฤติกรรมไม่เหมาะสม พี่ยันอยู่กับน้องมาตลอดไม่เคยมีเรื่องหรือพฤติกรรมอะไรที่บ่งบอกว่าชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิง และไม่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศอะไร
วันนี้ (11 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีอดีตโยมอุปัฏฐากได้ออกมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมของ ครูบาไก่ เจ้าอาวาสวัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อขอพบกับครูบาไก่ เจ้าอาวาสวัดป่าอีกครั้ง แต่ไม่พบครูบาไก่ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายรัชพล เก่งกว่าสิงห์ อายุ 50 ปี พี่ชายของครูบาไก่ ซึ่งอยู่ภายในวัดกับลูกศิษย์ลูกหาคนอื่นๆ รวมทั้งพระลูกวัด ซึ่งปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ
นายรัชพล พี่ชายของครูบาไก่ ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า หากจะพูดถึงการเรียกร้องความเป็นธรรม ตนเองมองว่ามันเป็นเรื่องที่มีหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะตัวเองคนเดียวคงไม่สามารถที่จะไปบอกหรือให้คนโน้นคนนี้เชื่อตามที่ตนเองต้องการได้อยู่แล้ว อะไรที่เป็นหลักฐานอะไรที่คิดว่าสิ่งที่ทำเป็นเรื่องจริงก็ให้นำออกมาแล้วเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน ถ้าเป็นเรื่องของพระของสงฆ์ก็ควรเข้าสู่กระบวนการของทางคณะสงฆ์ให้มันถูกต้อง ส่วนทางโลกสิ่งที่เขาทำก็จะเป็นเรื่องของญาติโยมคนที่เคารพศรัทธาพระครูบา ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกสารทิศก็ให้เป็นการพิจารณาของทางญาติโยมในส่วนนี้ไป
ในกรณีที่เกิดขึ้นนั้นมีทนายจากหลายทางติดต่อมาอยากจะมาช่วย ซึ่งในส่วนนี้ตนเองก็ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใครแต่อยู่ในระหว่างการพูดคุยพิจารณาในส่วนที่จะสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายหรือตามสิทธิในส่วนต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ตนเสียใจตรงที่ไม่น่าตัดสินใจที่จะเดินออกจากวัดในช่วงที่เกิดปัญหา เชื่อว่าถ้าตัวเองอยู่ก็คงจะไม่เกิดปัญหาร้ายแรงถึงขนาดนี้ แต่ส่วนหนึ่งตนเองก็ต้องอยู่กับครอบครัวด้วย ตนไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เล่นการพนัน ตนสามารถอยู่วัดได้โดยที่ไม่ใช้เงิน ในช่วงที่กลับไปนั้นครบรอบหนึ่งปีพอดี พอทราบว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวซึ่งก่อนจะเป็นข่าวก็ได้มีการพูดคุยกับครูบาไก่ถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว รวมทั้งมีญาติโยมลูกศิษย์ลูกหามาบอก แต่มาก็ไม่เจอครูบาไก่แล้ว ซึ่งได้ทราบจากทางญาติโยมว่าครูบาไก่ไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำบอกลูกศิษย์ลูกหาไว้ว่าไม่อยากจะยุ่งเรื่องทางโลก ฝากให้ลูกศิษย์ลูกหาและทางวัดจัดการกันไปก่อนตอนนี้ยังไม่อยากรับรู้อะไร และท่านก็ยังไม่บอกว่าจะกลับวันไหนแต่เชื่อว่าในเร็วเร็วนี้คงจะกลับมาเพราะตามนิสัยของท่านจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
ตนออกไปตนเงียบไม่เคยตอบโต้ แต่อีกฝ่ายไม่หยุดตนจึงเลือกที่จะออกไปเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ในทางกลับกันกลายเป็นช่องว่างให้อีกฝ่ายเข้าถึงตัวครูบาไก่และเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น เรื่องทั้งหมดทั้งมวลนั้นเชื่อว่าคนที่มีธรรมจะมองเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอะไรจริง อะไรไม่จริง แม้แต่คนที่ไม่รู้จักพระครูบาไก่ก็จะรู้จริงเพราะตามอุปนิสัยของคนที่ทำบุญเราไม่ถูกจริตของพระรูปใด เราก็แค่ไปที่อื่นก็ไปทำบุญที่อื่น ซึ่งเป็นเบสิกพื้นฐานของคนที่มีจิตใจเป็นบุญอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หนักพอสมควร ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนครูบาไก่ไว้แล้วว่าให้ระวังเพราะสองคนนี้เคยทำกับตนเองมาแล้วก็ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับครูบาไก่ ก็เคยพูดเคยเตือนกระทั่งสิ่งต่างๆ เหล่านั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ
โดยส่วนตัวตนกับอิคคิวและบุ๋มไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน การขายวัตถุมงคลต่างๆ นั้นตนไม่ได้กำหนดราคาไม่ได้ขอเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งและอีกฝ่ายก็เช่นกัน คือต่างฝ่ายต่างจะไม่ยุ่งใครอยากทำอะไรก็มีแค่พูดให้กันฟัง เพราะโดยนิสัยของครูบาเองใครเสนออะไรมาก็เอาด้วยทั้งหมด ใครต้องการอะไรก็ทำด้วยทั้งหมด ใครอยากทำบุญอะไรก็เปิดโอกาสให้ทำได้ทั้งหมด แม้จะรู้ว่าสิ่งใดไม่ถูกไม่ควรก็เก็บไว้โดยที่ไม่ต้องการให้เป็นปัญหาสำหรับใคร เหมือนที่ท่านจะพูดกับลูกศิษย์ลูกหาอยู่ตลอดว่า ให้ถูกใจคนทำสาให้ผิดใจตัวเอง ซึ่งนิสัยของครูบาไก่เป็นเช่นนั้น ลูกศิษย์ลูกหาและคนที่มีจิตใจเป็นธรรมที่รู้จักจะทราบดี
พี่ชายครูบาไก่บอกอีกว่า ในเรื่องของรสนิยมทางเพศหรือเรื่องชอบผู้ชายผู้หญิงนั้นตนเป็นพี่ชายครูบาไก่ซึ่งครูบาไก่เป็นน้องชายตามกันมาเป็นคนที่สี่ ตั้งแต่อยู่กับน้องเห็นน้องตลอดไม่เคยมีเรื่องหรือพฤติกรรมอะไรที่บ่งบอกว่าชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิง และไม่มีพฤติกรรมจะเบี่ยงเบนอะไร แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในกรณีที่มีบุคคลต่างๆ เหล่านั้นเข้ามาหาครูบาไก่เองมากกว่าซึ่งตนเองรวมทั้งลูกศิษย์คนอื่นๆ ก็จะคอยกันให้ออกไป
