มหาสารคาม - พ่อค้าส้มตำเมืองมหาสารคามโอด! เหตุมะละกอราคาพุ่งปรี๊ด ล่าสุดราคาถุงละ 420 บาท จากเดิม 370 บาท ทั้งวัตถุดิบอื่นปรับขึ้นหมด จำเป็นต้องลดปริมาณ ขอให้ลูกค้าเข้าใจ ทั้งวอนภาครัฐช่วยด่วน
ใกล้ตรุษจีนสินค้าหลายรายการปรับราคาขึ้น ไม่เว้นแม้แต่มะละกอที่ใช้ตำส้มตำ ซึ่งตอนนี้ราคาพุ่งสูงถึงถุงละ 420 บาท พ่อค้าร้านส้มตำถึงกับร้องสื่อมวลชนให้สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะได้รับผลกระทบมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลราคาสินค้า ไม่ใช่แต่เฉพาะมะละกอ แต่วัตถุดิบอื่นต่างก็ปรับราคาขึ้นไปตามๆ กันด้วย
ที่ร้านอู๋แซ่บเวอร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นายเชาวลิต เหล่าสมบัติ เจ้าของร้านอู๋แซ่บเวอร์ กล่าวว่า ตอนนี้ทางร้านได้รับผลกระทบมาก เพราะราคามะละกอดิบเพิ่มสูงมากจริงๆ อยากให้สื่อช่วยสื่อสารออกไปให้คนทั้งประเทศได้รู้ ไม่ใช่แต่มะนาวแพง แต่วัตถุดิบอื่นรวมถึงมะละกอ ต่างก็ปรับราคาสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ล่าสุดราคามะละกอ ณ วันนี้ (18 ม.ค.) ราคามะละกอดำเนิน เกรดเอ 2 แถว ราคาอยู่ที่ 420 บาท เกรดรองลงมา 3 แถว ราคา 400 บาท ซึ่งถุงหนึ่งน้ำหนักจะอยู่ประมาณ 10 กิโลกรัม เท่ากับว่าตกกิโลกรัมละ 40-42 บาท จากปกติราคาจะอยู่ที่หลักร้อยต้นๆ หากย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน (ปี 65) ช่วงที่มะละกอแพง ราคาจะอยู่ที่ 280-300 บาท แต่ปีนี้หนักสุด วันก่อนอยู่ที่ 370 บาท วันนี้ 420 บาทแล้ว พ่อค้าแม่ค้าร้านส้มตำเดือดร้อนมากจากต้นทุนที่เพิ่ม
ขณะเดียวกัน ด้านร้านค้าส่งให้ข้อมูลว่า หนักใจเหมือนกันที่ต้องขายมะละกอในราคาที่สูงแบบนี้ แต่เมื่อของมาแพงก็ต้องขายแพง เราจำเป็นต้องซื้อก็ซื้อเกรดที่ถูกลงมา ซื้อน้อยลง เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว ราคาที่ปรับขึ้นไม่ได้ขึ้นแต่มะละกอ ก่อนหน้านั้นมะเขือเทศราคาปรับขึ้นไปถึง 70 บาท ตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 50 บาท มะนาวราคาก็ปรับขึ้นเป็นกระสอบละ 1,450 บาท หากใช้มะนาวเกรดเอ ราคาจะอยู่ที่กระสอบละ 1,600-1,800 บาทเลยทีเดียว
ปัญหาของร้านตอนนี้คือวัตถุดิบทุกอย่างราคาแพงขึ้นหมด ถึงแม้จะมีข่าวว่าน้ำมันพืชปรับลดราคา หมูราคาลดลง แต่อย่างอื่นขึ้นหมด เครื่องปรุง ของสด ของทะเล เช่น ปูอัดจากเดิม 139 บาท ปรับขึ้นเป็น 155 บาท หอยแมลงภู่แช่แข็งจากเดิม 140-150 บาท ปรับขึ้นเป็น 170-180 บาท ไข่ไก่ ไข่เป็ดปรับขึ้นแผงละ 10-20 บาท
“ผลกระทบ เมื่อทำเป็นอาหารสำเร็จรูปพร้อมเสิร์ฟลูกค้า หากขายแพงก็ขายยากขึ้น ซึ่งกำลังซื้อลูกค้าเท่าเดิม แต่ต้องจ่ายราคาที่สูงขึ้น ก็ต้องคิดมากขึ้นว่าจะสั่งกินหรือไม่ แต่หากขายถูก ร้านค้าก็แทบจะไม่มีกำไร หรือกำไรไม่เหลือ ยอมรับว่าต้องขอลดปริมาณมะละกอลง ซึ่งต้องขอโทษและอธิบายลูกค้าว่ามะละกอแพงมาก จำเป็นต้องขอลดปริมาณลงเล็กน้อย ซึ่งลูกค้าก็เข้าใจ” นายเชาวลิตกล่าว
อยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทราบอยู่แล้วว่าควรจะต้องทำอย่างไร ราคาสินค้าในตลาดทุกคนรู้อยู่แล้วว่าของมันแพง จึงต้องหันมาพึ่งสื่อมวลชนให้ช่วยกระตุ้น สื่อสารออกไปให้ทุกคนได้รู้