ศรีสะเกษ - ชมรมครูประถมลุกฮือค้านร่าง พ.ร.บ.การศึกษา ชี้เปิดช่องทางให้มีการบ่อนเซาะทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาที่จะพัฒนาประเทศชาติและไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย มีความจำเป็นต้องปรับแก้ประเด็นสำคัญในหลายมาตรา เรียกร้องประธานรัฐสภาไม่นำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... บรรจุเข้าพิจารณาวาระ 3 ลั่นร่วมครูทั่วประเทศต้านถึงที่สุด
วันนี้ (9 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายธีรนันท์ คำคาวี ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) นายสนอง ทาหอม ประธานที่ปรึกษาชมรมฯ คณะกรรมการบริหารชมรมฯ สมาคม ผู้แทนสมาชิก ครูและบุคลากรทางการศึกษาภายใน จ.ศรีสะเกษ ได้พากันสวมชุดดำ และออกแถลงการณ์เรื่อง คัดค้านการนำเข้าร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ซึ่งมีความจำเป็นต้องปรับแก้ประเด็นสำคัญในหลายมาตรา โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากทั้ง 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมประชุม
พร้อมทั้งชูป้ายมีข้อความคัดค้าน พ.ร.บ.การศึกษาแห่ง พ.ศ. ... ระบุข้อความ “เราไม่เอาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ...ที่เปิดช่องทางให้มีการบ่อนเซาะทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 6, 11, 13, 14 และ 48”
นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่รัฐสภามีการนัดประชุมสมาชิกสภาและมีบรรจุในวาระพิจารณา เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .. (ฉบับผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญฯ) เข้าพิจารณาในวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 10-11 ม.ค. 66 นี้ ซึ่งทางชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ได้รวมตัวกันแต่งกายชุดดำออกแถลงจุดยืนความจำเป็นต้องปรับแก้ประเด็นสำคัญในหลายมาตรา ที่จะส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชน ครู และประเทศชาติ อันเนื่องด้วยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาที่จะพัฒนาประเทศ และไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักสำคัญของชาติ ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อความสามัคคี มั่นคง และสงบสุข ในสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …
นายสุนทรกล่าวต่อว่า หลายประเด็นมาตรา อาทิ ไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม / วิชาชีพชั้นสูงเหมือนดังเช่น พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เมื่อบุคคลธรรมดา ใครก็จัดการศึกษาได้ ตามมาตรา 11, 13, 14 (9) และมาตรา 48 วรรค 2 อีกทั้งยังไม่ให้รัฐจัดการศึกษาภาคบังคับตามมาตรา 48 และมาตรา 11 ข้าราชการครูผู้จัดการศึกษา (ผู้สอนและผู้บริหาร) ชั้นปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น จะต้องถูกให้ออกจากราชการในไม่ช้าในที่สุด ซึ่งเด็กนักเรียนบ้านนอกยากจนด้อยโอกาสทั่วประเทศกว่า 10,000 โรงเรียนต้องออกเดินทางไปเรียนโรงเรียนที่อยู่หมู่บ้านอื่น ตามมาตรา 14 (9) เด็กๆ จะออกกลางคันไม่จบการศึกษาภาคบังคับเป็นจำนวนมาก
รวมทั้งไม่ส่งเสริมผู้เรียนสู่สัมมาชีพที่ตนถนัด บังคับให้เด็กๆ เรียนเหมือนกัน เรียนอย่างเดียวกันและเรียนเท่าๆ กัน เพื่อให้เป็นคนมีคุณภาพเหมือนๆ กัน ตามมาตรา 8 และมาตรา 58 เป็นต้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับโลกยุค AI เป็นการเปิดช่องทางให้มีการบ่อนเซาะทำลายความมั่นคงของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 6, 11, 13, 14 และ 48 ซึ่งทหาร ตำรวจ และข้าราชการ คงยากจะรับมือไหวในไม่กี่ปีนี้
นายสุนทรกล่าวอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้เป็นเผด็จการรวบอำนาจการบริหารเข้าสู่ส่วนกลางมากที่สุด มากกว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่เคยใช้มา ดังนั้น จึงได้ออกมาแสดงจุดยืนในการคัดค้าน และขอเรียกร้องต่อประธานรัฐสภาไม่นำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ… บรรจุเข้าพิจารณาวาระ 3 พวกตนขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ที่มีความรู้ประสบการณ์ และเคยทำงานเรื่องการศึกษามาอย่างเชี่ยวชาญขึ้นพิจารณาใหม่ และนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เป็นต้นร่าง หากข้อร้องเรียนไม่ได้รับการพิจารณา พวกเราจะร่วมกับครูทั่วประเทศติดตามขับเคลื่อนต่อไปให้ถึงที่สุด