นครสวรรค์ - รอง ผบก.ภ.นครสวรรค์สอบหนุ่มลาดยาวฆ่าลูกในไส้วัย 3 ขวบ-ทิ้งศพกลางไร่มันฯ..พบจนถึงเช้านี้เหมือนยังหลอน-อ้างโดนผีหลอก เตรียมให้คนใกล้ชิดร่วมสอบ หวังเชื่อใจยอมเปิดปากปมก่อเหตุสะเทือนขวัญ พี่เผยน้องเคยเล่นยาหนักมานาน
วันนี้ (5 ม.ค. 65) พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒนสิริ รอง ผบก.ภ.จว.นว. ได้เดินทางไปที่ สภ.ลาดยาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีพ่อโหดฆ่าลูก 3 ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มันสําปะหลัง โดยใช้เวลาพูดคุยกับนายรณชัย ปานนนท์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหานานกว่า 30 นาที ซึ่งทางนายรณชัยก็มีท่าทีผ่อนคลายขึ้น แต่ยังคงให้การปฏิเสธไม่ได้ฆ่าลูก และไม่ได้ก่อเหตุใดๆทเลย เพียงเจอผีจึงต้องหนีเท่านั้น
รอง ผบก.ภ.จว.นว.ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเบื้องต้นนายรณชัย ปานนนท์ ผู้ต้องหา ยังอยู่ในอาการเหมือนคนเมายา และยังคงให้การปฏิเสธไม่ใช่บุคคลที่ฆ่าน้องเปียโน โดยอ้างวันเกิดเหตุอุ้มลูกออกจากห้องนอน เพราะเจอผีหลอกเลยรีบวิ่งหนี ก่อนทิ้งลูกในป่ามันสำปะหลัง ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการเชิญ “ลุงหนอง” ซึ่งเป็นคนที่นายรณชัยสนิทสนมและให้ความเคารพมาร่วมสอบปากคำด้วย โดยหวังว่าเจ้าตัวจะไว้ใจลุงหนองจนยอมเปิดปากให้ข้อมูลทุกอย่าง
ส่วนการตรวจสอบเรื่องจิตเวชนั้น พบว่านายรณชัยมีประวัติการรักษาจริง มีบัตรประจำตัวผู้ป่วย แต่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล เป็นเพียงผู้ป่วยกลุ่มสีขาวเท่านั้น ไม่มีความรุนแรงต่อสังคม ขณะที่การตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของนายรณชัยตอนนี้ไม่พบ จึงเป็นไปได้ว่านายรณชัยอาจทิ้งช่วงระยะในการเสพยาเสพติดจึงทำให้สารเจือจาง
แต่อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวม ทั้งพยานแวดล้อม และวัตถุพยาน สามารถชี้ชัดว่านายรณชัยเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงสามารถเอาผิดเจ้าตัวได้แน่นอน เพราะพยานหลายคนยืนยันตรงกันว่านายรณชัยอยู่กับน้องเปียโนเป็นคนสุดท้าย
ขณะที่ทีมชุดสืบสวนได้ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนนายรณชัยตลอดทั้งคืนก็ยังให้การวกวนไปในแบบเดิมว่าถูกผีหลอก พร้อมกับปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าลูก แต่เมื่อนำรูปภาพที่น้องเปียโนถูกฆ่าดินยัดอุดปากไปให้ดู ปรากฏว่าเจ้าตัวก็นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรเลย ส่วนในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค. 66) จะนำตัวนายรณชัยส่งฝากขังเรือนจำนครสวรรค์ในข้อหาฆ่าผู้อื่น
ด้านนายเจ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ที่ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมน้องชาย ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่าทราบเรื่องจากข่าว จึงเดินทางเอาข้าวเอาน้ำมาให้ด้วยความเป็นห่วง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็รับไม่ได้ และต้องการให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งตนก็ทราบว่าน้องชายเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเขาก็เคยเล่นยามานาน แถมยังเล่นหนักด้วย ตนจึงลาขาดกับน้องชายมาได้ 2 ปีแล้ว