ศูนย์ข่าวศรีราชา - พลังโซเชียลช่วยตามจับพ่อหลอนยาฆ่าลูกวัย 3 ขวบ ด้วยการใช้ดินยัดปากจนขาดอากาศหายใจ พลเมืองดีแจ้งเบาะแสตำรวจหลังพบเข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันเขต จ.ชลบุรี สารภาพช่วงปีใหม่ทั้งกินเหล้า เสพยาเสพติด
จากกรณีที่ นายรณชัย ปานนนท์ อายุ 27 ปี อุ้มลูกสาววัย 3 ขวบ ด.ญ.นรีนันท์ ปานนนท์ เข้าป่ามันสำปะหลัง บริเวณหลังบ้านเลขที่ 13/1 หมู่ 22 ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ก่อนใช้ดินยัดปากจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามจับกุมตัว พร้อมประกาศให้เป็นบุคคลอันตราย เนื่องจากมีการนำถังแก๊สและแผ่นกระดาษเขียนระบุชื่อจะฆ่ายกครอบครัวทั้งฝ่ายตนเอง และครอบครัวของอดีตภรรยาตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (4 ม.ค.) พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชลบุรี ได้แถลงการจับกุม นายรณชัย ปานนนท์ อายุ 27 ปี หลังควบคุมตัวได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.หนองข้างคอก ม.1 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กภ นครสวรรค์ ตรงตามที่ สภ.ลาดยาว ได้แจ้งเบาะแสในออนไลน์
พ.ต.อ.นิทัศน์ เผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากการที่พลเมืองดีได้โทรศัพท์เข้ามาหมายเลข 191 ว่า พบบุคคลต้องสงสัยที่มีลักษณะคล้ายคนร้ายที่ฆ่าลูกของตนเองใน จ.นครสวรรค์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจสอบ
กระทั่งพบคนร้ายกำลังเดินออกจากห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้ามาควบคุมตัว เมื่อสอบถามชื่อพบว่าตรงกับชื่อของผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเอง แต่ในเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าลูกตัวเอง
พ.ต.อ.นิทัศน์ ยังเผยอีกว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงว่ามีคนมาอุ้มลูกที่เกิดจากเมียเก่าไปจากที่นอนจึงเดินตามไป และพบว่าลูกอยู่ในป่ามันสำปะหลัง ซึ่งในขณะนั้นมีผีผู้หญิงแก่มาหลอกหลอนจนทำให้กลัวและต้องวิ่งหนีโดยทิ้งลูกไว้ที่ป่ามัน
และยังอ้างว่าเมื่อรู้ทีหลังว่าลูกตายแล้วจึงขี่รถจักรยานยนต์มา จ.ชลบุรี เพื่อรับแฟนใหม่ที่บางแสน แต่ระหว่างทางได้แวะเติมน้ำมัน รวมทั้งเข้าร้านสะดวกซื้อ และเข้าห้องน้ำกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม และยังสารภาพว่าในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาตนเองทั้งดื่มเหล้าและเสพยาบ้า จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเกิดอาการหลอนจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
“ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจในข่าวสาร และแจ้งเบาะแสมายังตำรวจ จนสามารถติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว” พ.ต.อ.นิทัศน์ กล่าว
