xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! สภาพลำน้ำว้าเหลือแค่น้ำไหลริน-ชาวบ้านร้อง DSI ผวาโดนขู่ ตร.ต้องพาแจ้งความแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น่าน - เห็นสภาพทางกายภาพกับตา..เผยปมชาวบ่อเกลือ 2 ตำบลฮือร้อง DSI สอบโฮมสเตย์อดีต ส.ส.น่านหลายสมัย พบ “ลำน้ำว้า” เปลี่ยน กระทบแหล่งพันธุ์ปลา-ทางสาธารณะดั้งเดิมถูกปิดกั้น แถมโดนขู่จน ตร.ต้องพาขึ้นโรงพักแจ้งความไว้ก่อน พร้อมส่งสายตรวจลงพื้นที่


กรณีชาวบ้าน ต.สว้าเหนือ และ ต.สว้าใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ร้องเรียนให้ตรวจสอบพื้นที่ “วิวสว้า โฮมสเตย์” ของอดีตนักการเมืองน่าน พื้นที่บ้านสว้าเหนือ หมู่ที่ 3 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ โดยระบุว่ามีการปรับเปลี่ยนเส้นทางลำน้ำว้า ถมที่ดิน-ขยายพื้นที่ทับลำน้ำว้า จนทำลายแหล่งพันธุ์ปลา ทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิม อีกทั้งยังหวงกันพื้นที่ริมน้ำไว้เป็นของตนเอง และปิดทางเดินสาธารณะเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านใน 2 ตำบล กว่า 160 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถใช้ประโยชน์ในลำน้ำว้าได้ตามปกติ และสัญจรเข้าออกที่ดินทำกินซึ่งอยู่ถัดไปด้านเหนือได้ยากลำบาก

นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) มอบหมายให้ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีฯ บูรณาการร่วมกับ ป.ป.ท.เขต 5, ทสจ.น่าน, ฝ่ายปกครองอำเภอบ่อเกลือ, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13, สำนักงานที่ดินจังหวัดน่าน, กอ.รมน.น่าน, ตำรวจ สภ.บ่อเกลือ, เจ้าท่าภูมิภาค สาขาแพร่ เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา


เบื้องต้นพบสภาพทางกายภาพของลำน้ำว้าเกิดการเปลี่ยนแปลง มีการขนหินจากแม่น้ำขึ้นมาสร้างเนินดินออกไปจากพื้นที่เดิม รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางน้ำ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตรกรรม ปิดกั้นทางสาธารณะที่ชาวบ้านเคยใช้สัญจรผ่านได้สะดวกมาก่อน แต่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดน่าน

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวหลังตรวจสอบว่าชาวบ้านในพื้นที่และผู้ครอบครองพื้นที่เดิม ได้เข้าให้ข้อมูลประกอบพยานหลักฐานยืนยันแนวเขตว่ามีการล่วงล้ำลำน้ำ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 และยังพบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ จึงอาจจะเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีกด้วย ซึ่งหากผู้ใดบุกรุกอาจจะเป็นความผิดฐานบุกรุกป่า

การก่อสร้างโรงเรือน และการประกอบกิจการโรงแรมไม่พบว่ามีการขออนุญาตตามกฎหมาย รวมไปถึงการนำแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน ซึ่งจะมีการตรวจสอบ และหากพบมีการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


“ในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทางดีเอสไอมีเครื่องมือพิเศษสามารถพล็อตแผนที่ประกอบ คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนจะดำเนินการแล้วเสร็จ และสามารถคืนลำน้ำว้าให้กลับสู่สภาพเดิม ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้ประโยชน์ได้ตามปกติ”

อย่างไรก็ตาม หลังยื่นหนังสือร้องเรียน ชาวบ้านยังได้ร้องเรียนด้วยว่าถูกข่มขู่จะยิง ซึ่ง พ.ต.อ.สมชาย กาวิเนตร ผกก.สภ.บ่อเกลือ จึงได้นำชาวบ้านทั้งหมดเข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ่อเกลือ พร้อมกับส่งชุดสายตรวจเข้าตรวจตราความปลอดภัยในหมู่บ้าน เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้าน




กำลังโหลดความคิดเห็น