กระแสข่าวการจับกุมโรงงานแปรรูปวัตถุดิบเนื้อและเครื่องในสัตว์ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และพบการลักลอบผลิตวัตถุดิบชิ้นส่วนเนื้อสัตว์แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลินขนาดใหญ่ ส่งขายร้านหมูกระทะ และร้านอาหารอีสานกว่า 66 แห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียง น้ำหนักรวม 25,000 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เมื่อหลายวันก่อน
สร้างความตระหนกตกใจให้สังคมไม่น้อย และแม้การตรวจจับครั้งนี้จะเป็นภารกิจของ “กรมปศุสัตว์” เพื่อทลายแหล่งเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย แต่ก็กล่าวได้ว่าเป็นผลพลอยได้ที่ดีต่อสังคมโดยรวมอย่างยิ่ง เพราะนำไปสู่ความตื่นตัวของหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เช่น อย. และกระทรวงสาธารณสุข ในการออกตรวจร้านอาหารต่างๆ ตลอดจนการที่สภาองค์กรผู้บริโภค ออกมาเรียกร้องรัฐตรวจเข้มโรงชำแหละ ร้านหมูกระทะและปิ้งย่าง นับว่าปฏิบัติการครั้งนี้กระตุ้นให้ผู้คนสนใจเรื่องความปลอดภัยทางอาหารเพิ่มมากขึ้น
กล่าวได้ว่า ปฏิบัติการนี้มีจุดเริ่มต้นจากความปรารถนาดีต่อคนไทย ทั้งต่อเกษตรกรให้ปลอดภัยจากโรคระบาดสัตว์ที่อาจเข้ามาระบาดซ้ำ และต่อผู้บริโภคชาวไทยให้ปลอดภัยจากการรับประทานหมูที่ไม่ผ่านการตรวจโรคหรือสารปนเปื้อน ที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “หมูเถื่อน” หลังกรมปศุสัตว์ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนตามข่าวสารที่ขอความร่วมมือให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา กระทั่งนำไปสู่การเข้าตรวจจับโรงงานและพบเนื้อสัตว์แช่ฟอร์มาลินดังกล่าว
มาตรการกวาดกล้างหมูเถื่อนทุกทิศทางที่ “กรมปศุสัตว์” วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับทั้งทางท่าเรือ ทางสนามบิน ทางด่านชายแดนและปูพรมตรวจห้องเย็น ย่อมขัดขวาง “ขบวนการหมูเถื่อน” ไม่ให้กระทำผิดกฎหมายได้ง่ายดังเดิม และเมื่อ “หน่วยงานสาธารณสุข” ออกมาร่วมมือในการตรวจจับอาหารและเนื้อสัตว์ที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย ย่อมทำให้ร้านอาหารต่างๆ ไม่กล้าที่จะรับหมูเถื่อนที่ไม่ผ่านการตรวจสารปนเปื้อนเข้าไปจำหน่ายในร้านของตน ปิดช่องทางการขายหมูเถื่อนได้อีกทางหนึ่ง นับเป็นประโยชน์ต่อองค์รวมของประเทศโดยแท้
ขณะที่การตรวจสอบโรงงานผลิตสัตว์เป็นการตรวจสอบภายใต้กฎหมายของกรมปศุสัตว์ ซึ่งบทลงโทษในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงฆ่าสัตว์ หมู หรือเนื้อสัตว์เถื่อนนั้นอาจมีผลต่อทางโรงงานเท่านั้น แต่เมื่ออาศัยบทบัญญัติของกฎหมายเกี่ยวกับสารปนเปื้อนอาหาร ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “กระทรวงสาธารณสุข” ซึ่งมีบทลงโทษต่อผู้ประกอบการร้านอาหารด้วย เชื่อว่าจะทำให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดมีความเกรงกลัวต่อกฎหมายมากขึ้น และน่าจะเข้าใกล้จุดจบของขบวนการหมูเถื่อนในประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับแนวทางหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ไม่ปลอดภัยง่ายๆ ก็เพียงเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือมองหาสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK ของกรมปศุสัตว์ก็สบายใจได้ไปเปลาะหนึ่งแล้ว ส่วนถ้าไปรับประทานบุฟเฟต์หมูกระทะที่ไหนควรสังเกตลักษณะของหมู เนื้อ อาหารทะเล หรือผักสดที่นำมาเสิร์ฟ ตามที่ รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะนำไว้ว่าให้ดมกลิ่นถ้ามีกลิ่นฉุนแสบจมูก ให้สงสัยไว้ก่อนว่ามีสารฟอร์มาลิน
หรือจะใช้วิธีหลีกเลี่ยงการซื้อหมูที่มี “ราคาถูกกว่าปกติ” ก็น่าจะง่ายต่อการตัดสินใจเช่นกัน
โดย วลัญช์ ศรัทธา