นครสวรรค์ - ครูสาวนครสวรรค์ถึงกับผวา วอนญาติ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาไปรักษา..ตัวตึงบุกโรงเรียนขอแต่งงาน บอกจะให้สินสอดเงินล้าน พร้อมคุยโว “พลโท ตังนั่งเงิน” โอนเงินเข้าบัญชีลูกถึง 16 ล้าน รู้จักทั้ง ผกก.ยันผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
หลังได้รับการร้องเรียนจากนางสาวปาริษา หมีทอง หรือครูอุ้ม โรงเรียนบ้านเขากะลา ต.พระนอน อ.เมืองนครสวรรค์ ว่ามีผู้ปกครองของนักเรียนที่อยู่ในชั้นเรียนอนุบาลของตนเองชอบมาแอบซุ่มในโรงเรียน บางครั้งมีอาวุธติดมือมาด้วย บางครั้งมาตะโกนขอแต่งงานจะนำสินสอดนับล้านมาสู่ขอ และคุกคามจะเดินเข้าชั้นเรียน ทำให้ตนเองหวั่นจะไม่ปลอดภัยต่อตนเองและลูกศิษย์
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นผู้ป่วยจิตไม่ปกติ แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ให้ญาติ และหน่วยงานนำตัวไปรักษาเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ไปแล้วแต่ก็ปล่อยตัวออกมา ทำให้ตนและครูในโรงเรียนต่างหวาดผวา เกรงจะเกิดเหตุร้ายหากมีอาการคลุ้มคลั่ง
ครูอุ้มยังระบุถึงชายคนดังกล่าวมีบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนไปประมาณ 500 เมตร เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และพบตัวชายคนที่ถูกร้องเรียนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน จึงได้เข้าไปพูดคุยทราบว่าเจ้าตัวชื่อนายต้อง (นามสมุติ) อายุ 44 ปี ยอมรับว่ามีการไปบอกรักครูอุ้มจริง พร้อมกับคุยว่าตัวเองมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารลูกชายจำนวน 16 ล้านบาท พร้อมจะใช้เงิน 2.4 ล้านบาท เพื่อไปสู่ขอ
“วันนั้นได้ไปหาลูกที่โรงเรียนเพราะเป็นห่วง แต่พอได้เจอครูอุ้ม จึงบอกสารภาพรัก และบอกจะมาสู่ขอให้สินสอดระดับเงินล้าน เพราะลูกรวยมีเงินฝากอยู่ในบัญชี 16 ล้านบาทที่ได้มาจากพลโท ตังนั่งเงิน ที่อยู่ต่างประเทศ แต่ไปบอกรักขอแต่งงานกับเขาแค่ครั้งเดียวนะ ผมเป็นคนไม่ชอบซ้ำแซะ”
นายต้องยังบอกอีกว่า ส่วนเรื่องที่ว่าชอบไปอาละวาดที่โรงเรียนตีลูก เพราะวันนั้นโมโหที่ลูกชายผมโดนกล้อนผม จึงไปอาละวาดจะเอาเรื่องครู แต่พอรู้ความจริง ว่าลูกเล่นกันกับเพื่อนแล้วแกล้งกล้อนผมกันเอง จึงทำให้โมโห ตีลูกภายในโรงเรียนก็เท่านั้น
“ถ้าอยากรู้ว่าผมคือใคร ลองไปถาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้ ผมรู้จักหมด หากคุณไม่เชื่อ ลองไปแวะถาม ผกก.โรงพัก สภ.หนองปลิง ได้เลย นั่นก็รู้จักผม เดี๋ยวเอาสูติบัตรลูกชายมาให้ดู” นายต้องกล่าวชนิดที่ทำให้นักข่าวต้องล่าถอยออกมากันเลยทีเดียว
และเมื่อสอบถามญาติของนายต้อง พบว่า นายต้องเคยได้รับอุบัติเหตุทางสมอง ทำให้มีอาการบางครั้งพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ได้บ้า เขาเป็นคนป่วย และก็ไม่เคยทำอะไรถึงขั้นรุนแรง หรือไปอาละวาดทำร้ายใคร ยกเว้นจะมีใครไปจี้ไปแหย่ ซึ่งก่อนหน้านี้แม่ของเขาเคยเอาตัวไปรักษาแล้ว แต่ก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก จึงไม่รู้จะช่วยรักษาอย่างไร ก็อยากวอนขอให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือพาไปรักษาตัว จะได้ทำมาหากินและเลี้ยงลูกได้ตามปกติต่อไป