จันทบุรี - ร้อนตัวหนัก! นักการเมือง-แก๊งค้าทุเรียนอ่อนโต้พัลวัน หลัง "สนธิ ลิ้มทองกุล" เปิดโปงขบวนการทุบตลาดทุเรียนไทยถึงขั้นส่งไลน์แจงทุกกลุ่มยันแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ขณะประเด็นย้าย “ชลธี นุ่มหนู” คาดสุดท้ายอธิบดีฯ ถูกลอยแพเชื่อเรื่องไม่จบง่ายๆ
จากกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของรายการ “สนธิ ทอล์ก ”ได้ออกมาเปิดโปงขบวนการค้าทุเรียนอ่อนที่กำลังทำลายตลาดส่งออกทุเรียนไทยซึ่งมีตลาดใหญ่ในประเทศจีน ที่ขณะนี้ทุเรียนไทยกำลังถูกตีตลาดโดยทุเรียนจากประเทศเวียดนามที่สามารถรักษาคุณภาพทุเรียนได้ดีกว่า จนทำให้ได้รับอนุญาตส่งทุเรียนเข้าจีนแข่งกับไทย
พร้อมระบุว่า ต้นตอใหญ่ของการทำลายทุเรียนไทยมาจากความโลภของเจ้าของสวน และล้งส่งออกผลไม้ รวมทั้งนักการเมืองบางรายที่ให้การสนับสนุนล้งส่งออกที่แอบยัดไส้ทั้งทุเรียนอ่อน และทุเรียนสวมสิทธิ โดยหวังรักษาเพียงผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
รวมทั้งเรื่องของที่มาคำสั่งย้ายฟ้าผ่า นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 ให้เข้าทำงานที่กรมวิชาการเกษตรส่วนกลาง ทั้งที่มีผลงานการแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อนและทุเรียนสวมสิทธิจนเป็นที่ประจักษ์ โดยเชื่อว่าสาเหตุสำคัญมาจากการขวางทางทำมาหากินของกลุ่มผู้ค้าทุเรียนอ่อนที่ต้องสูญเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาลนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรายการดังกล่าวได้แพร่ภาพผ่านช่อง News1 และการไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายขึ้นในกลุ่มผู้ค้าทุเรียน จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก รวมถึงกลุ่มผู้ค้าทุเรียนในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมระบุข้อมูลที่ถูกพูดถึงในรายการเป็นข้อมูลเชิงลึก และเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะพูดถึง
สวนทางกับหน่วยงานรัฐบางแห่งที่พยายามออกมาแก้ข่าวและบอกว่า ข้อมูลเรื่องกลุ่มทุนทุเรียน กระบวนการสวมสิทธิ และกระบวนการทำทุเรียนอ่อนเป็นข้อมูล Fake News ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบรู้อยู่เต็มอกแต่กลับออกมาเบี่ยงประเด็น เพราะกลัวว่าสุดท้ายแล้วเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นจะสาวไปถึงตัวเอง และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวรายหนึ่งในวงการทุเรียนจันทบุรี บอกว่า ขณะนี้กลุ่มทุนที่เป็นคนไทย และกลุ่มทุนต่างชาติที่มีพฤติกรรมค้าทุเรียนอ่อน เริ่มมีความกังวลว่าจะถูกตรวจสอบจึงพยายามที่จะเก็บตัวให้เงียบที่สุด
ขณะที่นักการเมืองบางรายเริ่มร้อนตัวจนต้องชี้แจงผ่านกลุ่มไลน์ผู้ค้าทุเรียนในหลายกลุ่มว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และพยายามชี้แจงว่า ที่ผ่านมา ตนเองได้หาทางช่วยชาวสวน และผู้เกี่ยวข้องในการระบายผลไม้ออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
“แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ในวันนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายระพีพัฒน์ จันทรศรีวงษ์ ดูเหมือนว่าจะถูกลอยแพให้แก้ปัญหาทุเรียน ทั้งทุเรียนอ่อน และทุเรียนสวมสิทธิแบบโดดเดี่ยว และยังต้องแบกรับแรงกระเพื่อมเรื่องคำสั่งย้าย ผอ.ชลธี ออกจากพื้นที่ จนชาวสวนภาคตะวันออกและคนในวงการทุเรียน (ที่ทำถูกกติกา) ไม่พอใจและไม่เห็นด้วย”
แหล่งข่าวในวงการทุเรียนจันทบุรี ยืนยันว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ผอ.ชลธี ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการเอาจริงเอาจังในการควบคุมคุณภาพทุเรียนไทยก่อนส่งออกได้ทำให้ราคาขายดีตลอดฤดูกาล และได้รับคำชื่นชมจากประเทศปลายทางว่ามีคุณภาพ
มิหนำซ้ำประเด็นการย้าย นายชลธี นุ่มหนู ออกจากพื้นที่ได้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน คือ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เนื่องจากผู้มีอำนาจในพรรคประชาธิปัตย์ ได้โยนลูกการสั่งย้าย ผอ.ชลธี ว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตร และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรที่กำกับดูแล
“ทั้งๆ ที่ผ่านมา รัฐมนตรีช่วย มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ไม่พอใจอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นอย่างมากเพราะตัวเองอยู่ในกำกับการดูของรัฐมนตรีช่วย แต่สุดกลับไปฟังคำสั่งใครก็ไม่รู้ที่ให้ย้าย ผอ.ชลธี นอกจากนั้น ในวันนี้ทั้งชาวสวนและคนในวงการทุเรียนรู้อยู่เต็มอกว่าใครเป็นคนสั่งย้าย จึงเชื่อได้ว่าปัญหานี้จะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว