ราชบุรี - สะเทือนใจชาวพุทธ หลังพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่เก่าแก่สมัยอยุธยา ภายในอุโบสถวัดใหญ่อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ถูกโจรใจบาปลอบตัดเศียรไปกว่า 15 ปีแล้ว เจ้าอาวาสวัดเตรียมต่อเศียรใหม่ พร้อมบูรณะอุโบสถเก่าโบราณ เชิญผู้ใจบุญร่วมกุศลครั้งใหญ่
วันนี้ (22 พ.ย.) พระอธิการสมยศ ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดใหญ่อ่างทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ หาญณรงค์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ นางวริศรา รุ่งเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 นายฐปณวัฒน์ พูนพิทักษ์สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.อ่างทอง ได้พาไปดูวิหารอุโบสถหลังเก่าลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาลดชั้น เครื่องไม้มุงกระเบื้อง ด้านข้างมีชายคาปีกนกคลุม มีเสาปูนสี่เหลี่ยมรองรับโครงหลังคาโดยรอบ ที่หัวเสามีจารึกนามผู้บริจาคเงินสร้าง หน้าบันประตูทางเข้ามีการเขียนข้อความไว้ว่า “ซ่อมแซม พ.ศ.2470” สภาพเก่าทรุดโทรม เผยให้เห็นผนังที่ผุพังจนเห็นอิฐเก่าโบราณ บางจุดมีตะไคร่น้ำเกาะอยู่บริเวณเสาด้านข้างหลายต้น หลังคาผุพังมีรอยโหว่เป็นรูหลายแห่ง
ด้านหลังมีรากต้นโพธิ์และต้นไทรเลื้อยเข้าไปภายในโบสถ์เก่าจนทำให้ผนังและหลังคาแตกร้าว ทางเจ้าอาวาสวัดได้นำกุญแจมาเปิดประตูไม้สักโบราณให้เข้าไปดูพระพุทธรูปโบราณเก่าแก่องค์ใหญ่ อายุหลายร้อยปี สันนิษฐานน่าจะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยาช่วงพุทธศตวรรษที่ 22-23 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลักษณะสร้างด้วยเนื้อปูนปั้นลงรักปิดทองเก่าโบราณทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ด้านในจำนวน 2 องค์ และยังมีพระพุทธรูปเนื้อโลหะปางมารวิชัยอยู่ด้านหน้าอีก 1 องค์ ด้านข้างมีพระโมกคัลลา พระสารีบุตร ล้มแตกหักเสียหายทั้ง 2 องค์ และยังพบพระพุทธรูปองค์กลางถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมตัดเศียร จนเป็นที่สะเทือนใจของผู้พบเห็น และชาวพุทธเป็นอย่างมาก
นายฐปณวัฒน์ พูนพิทักษ์สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วมาทราบทีหลังว่าพระพุทธรูปถูกตัดเศียรหายไป น่าจะโดนตัดมากว่า 10 ปีแล้ว เพราะเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันมาจำพรรษาอยู่ประมาณปี 2553 ช่วงนั้นเศียรพระถูกตัดไปแล้ว แต่ไม่มีงบประมาณในการบูรณะใหม่ ต่อมามีผู้ใจบุญมาพบจึงอยากร่วมทำบุญ และมาติดต่อวัดเพื่อขออนุญาตต่อเศียรพระ และหลวงพ่อมีดำริว่าอยากซ่อมแซมหลังคาด้วย จึงต้องอาศัยผู้ใจบุญในหมู่บ้านช่วยกัน เนื่องจากองค์พระเป็นศิลปะเก่าแก่ โบสถ์นี้สร้างมีอายุไม่ต่ำกว่า 150 ปี แน่นอน
ส่วนการบูรณะนั้น หลวงพ่อจะให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบก่อนว่ายังสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ ส่วนเศียรให้ช่างดำเนินการอยู่ การบูรณะมีค่าใช้จ่ายกว่า 1 แสนบาท โดยได้เงินทำบุญจากชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกัน คาดว่างบประมาณบูรณะอุโบสถหลังนี้น่าจะประมาณ 6 ล้านบาท
สำหรับประวัติชื่อวัดคำว่า “อ่างทอง” ปัจจุบันเป็นชื่อของตำบลหนึ่งในเขต อ.เมืองราชบุรี แต่เดิมในอดีตมีชื่อว่า “ตำบลดอนงิ้ว” เมื่อก่อนแถวนี้มีหลายหมู่บ้าน ต่อมาได้รวมเข้าเป็นหมู่บ้านเดียวกันแล้วเปลี่ยนใหม่ว่า “บ้านใหญ่อ่างทอง” โดยพื้นที่นี้มีภูเขาตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เมื่อเข้าฤดูฝนจะมีน้ำหลากมาสู่พื้นที่แล้วได้นำเอาแร่ธาตุต่างๆ มาด้วย โดยเฉพาะแร่ทองคำ โดยได้ไหลมารวมกันอยู่บริเวณหน้าวัด จึงเป็นมูลเหตุชื่อวัดว่า “วัดใหญ่อ่างทอง”
ส่วนการสร้างวัดนั้นมีแต่คำบอกเล่าของคนรุ่นเก่าซึ่งเป็นตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อโนจา ท่านเป็นชาวเชียงใหม่ ได้ธุดงค์ปฏิบัติธรรมโปรดญาติโยม และชาวบ้านมีความเลื่อมใสศรัทธา เมื่อเข้าพรรษา ชาวบ้านได้นิมนต์หลวงพ่อให้อยู่จำพรรษา ณ ที่แห่งนี้ และได้เริ่มสร้างกุฏิให้หลวงพ่อ หลวงพ่อโนจาได้ดำริจัดตั้งวัดขึ้น ใช้ชื่อว่า “วัดใหญ่อ่างทอง” ตามบันทึกทะเบียนวัดของจังหวัดราชบุรี ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดราชบุรี ได้บันทึกไว้ว่า วัดใหญ่อ่างทอง ประกาศจัดตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2325 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 มีหลวงพ่อโนจา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2382-2419 ปัจจุบันมี พระอธิการสมยศ ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดใหญ่อ่างทอง ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ 7
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถโอนเงินร่วมทำบุญสร้างเศียรพระ และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถได้ที่ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 530-054674-3 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่เจ้าอาวาสวัด 08-0022-6723 หรือผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 โทร. 08-5424-2414 หรือผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 โทร.08-9916-9874