xs
xsm
sm
md
lg

สิ้นแล้ว! “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” เกจิดังแห่งอีสานใต้ สิริรวมอายุ 77 ปี 55 พรรษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หลวงปู่รอด  อาภสฺสโร  เจ้าอาวาสวัดโคกกรม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เกจิดังแห่งอีสานใต้
สุรินทร์ - สิ้นแล้ว “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” เจ้าอาวาสวัดโคกกรม เกจิดังแห่งอีสานใต้ สิริรวมอายุ 77 ปี 55 พรรษา เมื่อคืนนี้ เวลา 23.15 น. ที่ รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ลูกศิษย์เคลื่อนสรีระสังขารกลับวัดโคกกรม อ.พนมดงรัก ด้วยความโศกเศร้า

วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” เกจิดังแห่งอีสานใต้ เจ้าอาวาสวัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้มรณภาพแล้วเมื่อเวลา 23.15 น. ที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ สิริอายุได้ 77 ปี 55 พรรษา ด้วยอาการวูบสาเหตุจากพักผ่อนน้อยและโรคประจำตัวคืออาการเส้นเลือดหัวใจโป่งพองมากว่า 10 ปี โดยลูกศิษย์ได้นำสรีระสังขารกลับมาที่วัดโคกกรม ต.จีกแดก แล้วตั้งแต่เมื่อคืนเวลาประมาณตี 1 ซึ่งมีลูกศิษย์และชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมาที่วัดด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ไม่นึกว่าหลวงปู่จะจากไปเร็วอย่างนี้


ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปติดตามที่วัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก ได้พบกับ พระครูปริยัติบุญญาทร รองเจ้าคณะตำบลโคกกลาง เจ้าอาวาสวัดโนนสมบูรณ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระครูปริยัติบุญญาทรกล่าวว่า เมื่อคืนทราบจากพระแซมที่ดูแลหลวงปู่ว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงหลวงปู่ตะโกนเรียก จึงได้รีบไปที่ห้องท่าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน แต่พอเปิดประตูเข้าไป เห็นหลวงปู่ล้มนอนอยู่กับพื้นห้องแล้ว จึงได้รีบเข้าไปประคองและรีบนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลพนมดงรักทันที

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลต่างช่วยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งพออาตมาไปถึงในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม 44 นาที ได้เข้าไปจับที่ปลายเท้าของหลวงปู่ รู้สึกว่าเท้าเย็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรตอบสนอง ม่านตาเปิดโล่งแล้ว จึงได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า หยุดได้แล้ว หลวงปู่ไปแล้ว จากนั้นอาตมาเดินออกจากห้องมาเพราะรู้สึกว่าทำใจลำบาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ถอดสายและเครื่องช่วยหายใจออก ก็ได้กลับมาอีกรอบเพื่อเตรียมนำหลวงปู่กลับวัด

สำหรับโรคที่หลวงปู่เป็นอยู่นั้น ได้เคยไปรักษาอยู่หลายโรงพยาบาล แต่หลวงปู่ก็ไม่รักษา เอาแต่ยามากิน จนกระทั่งมาเกิดอาการเมื่อวานนี้ ซึ่งประกอบกับที่หลวงปู่มีกิจนิมนต์เยอะ พักผ่อนน้อยด้วย


ผู้สื่อข่าวได้รายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศที่วัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก ในขณะนี้ทางลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดกำลังอยู่ระหว่างประชุมกันว่าจะจัดงานอย่างไรให้กับหลวงปู่ ซึ่งหากมีความคืบหน้าก็จะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับชีวประวัติของ “หลวงปู่รอด อาภสฺสโร” ปัจจุบันอายุย่าง 77 ปี มีพรรษาที่ 55 ชื่อเดิม บุญรอด นามสกุล ทะลัยรัมย์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 เดือนมกราคม พุทธศักราช 2488 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 2 ปีชวด ที่บ้านระกาไกรสร ตำบลเพี้ยราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ บิดาชื่อ นายฉิม มารดาชื่อนางละเมียด นามสกุล ทะลัยรัมย์ มีพี่น้องด้วยกัน 3 คน โดยหลวงปู่เป็นคนโต คนที่ 2 ชื่อ นายรื่น ทะลัยรัมย์ อาชีพเกษตรกร คนที่ 3 ชื่อ นางวิลัยลักษณ์ ฉายถวิล ข้าราชการครูบำนาญ


ตอนวัยเด็กหลวงปู่เกิดมาสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง มารดาจึงได้ตั้งชื่อให้ว่า “บุญรอด” พออายุได้ 5 ขวบมารดาจึงเพิ่งไปแจ้งเกิดให้ ปู่ทวดของหลวงปู่รอดเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ชื่อว่า ตาเบว เป็นบรรพบุรุษรุ่นแรก ตอนที่เสียชีวิตลูกหลานและพี่น้องได้ทำการเผาศพของท่านตามประเพณี ในขณะที่เผาศพของตาเบวไฟไม่ไหม้ หลวงปู่รอดท่านได้บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 13 ปี และต่อมาได้เข้าบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 17 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2510 ที่วัดศิรินทราราม ตำบลนาดี อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีพระครูอรุณสาธุกิจ วัดศิรินทราราม ตำบลนาดี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “อาภสฺสโร” จนถึงปัจจุบัน

ตอนเด็กๆ หลวงปู่เป็นคนชอบปั้นพระพุทธรูป ในขณะที่คนอื่นเลี้ยงวัวเลี้ยงควายตามทุ่งนา ซึ่งตาเบวที่เป็นปู่ทวดได้บอกให้ทำพระไป แล้วท่านก็สอนวิชาอาคมทั้งหลายให้ โดยพระที่ทำจะใช้ดินทำ ทำแล้วเอาไปไว้บนบ้าน เวลามีญาติโยมมาก็ขอไป ญาติพี่น้องมาก็ขอไป เอาไปเพื่อกราบไหว้บูชา ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่รอดได้เรียนวิชาอาคมจากตาเบวแล้ว จึงได้อธิษฐานจิตพระทุกองค์ให้ จนกระทั่งถึงอายุครบที่จะบวชแล้วจึงได้บวช


หลวงปู่รอดเป็นพระที่ชาวบ้านศรัทธาในด้านศูนย์รวมทางจิตใจ มีเมตตาต่อทุกคนที่เข้าพบ ท่านได้รับความรู้ด้านตำรายาและการรักษาแบบโบราณจากหลวงปู่ 3 รูป คือ หลวงปู่โด๊ะ ชื่อว่า พระครูอรุณสาธุกิจ บ้านโคกวัด ตำบลนาดี อำเภอเมืองสุรินทร์ หลวงตาโด๊ะ มีครูอีกชั้นหนึ่งคือ หลวงปู่ชิด ชื่อ พระครูวิชิตธรรมคุณ วัดบ้านลำดวน ตำบลลำดวน และ หลวงปู่ริม รัตนมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทุมพร ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้สร้างวัดเขาแหลม ที่บ้านแนงมุด ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ สรีระของท่านยังเก็บไว้ในมณฑป ท่านเก่งกัมมัฏฐาน กายทิพย์ หลวงปู่ทั้ง 3 ให้ความเมตตาต่อหลวงปู่รอดเป็นอย่างมาก

ตำรับยาบางส่วนหลวงปู่รอดได้ศึกษาจากตำราโบราณที่บรรพบุรุษของท่านได้เขียนไว้ ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาโรคเบาหวาน และยารักษาอาการปวดเมื่อย ที่หลายคนนำไปรักษาแล้วหาย จนหลวงปู่ได้รับรางวัลมามากมายในด้านการใช้สมุนไพรรักษาโรค ซึ่งสมุนไพรต่างๆ นั้นหลวงปู่ได้เข้าไปหามาจากป่าลึกบริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชา


ในด้านวัตถุมงคลของขลัง หลวงปู่รอดได้เริ่มทำวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ เมื่อปี พ.ศ. 2550 ไม่ว่าจะเป็น สีผึ้ง พระสมเด็จ และ ตะกรุด ซึ่งได้ทำไว้เพื่อแจกแก่ญาติโยมที่มาหา และแจกแก่ทหาร ตำรวจ ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ที่ภาคใต้ จนเป็นที่ยอมรับถึงความเข้มขลังของวัตถุมงคลของหลวงปู่รอด ทำให้มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองดังๆ หลายคน

ในด้านการช่วยเหลือสังคมและทางพระพุทธศาสนา หลวงปู่ได้ช่วยสร้างวัดที่กำลังพัฒนาหลายแห่ง เช่น 1. วัดระกาไกรสร 2. วัดฉันเพล 3. วัดหนองหิน 4. วัดบ้านด่าน 5. วัดโนนสมบูรณ์ 6. วัดกู่สัตธาราม 7. วัดบ้านเพี้ยราม อีกทั้งยังได้จัดสร้างอาคารโรงพยาบาลพนมดงรัก และช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งได้จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์มอบแก่โรงพยาบาลสุรินทร์อีกด้วย จนได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณมากมาย

พระครูปริยัติบุญญาทร รองเจ้าคณะตำบลโคกกลาง เจ้าอาวาสวัดโนนสมบูรณ์ ต.โคกกลาง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกกรม ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลวงปู่รอดได้จำพรรษาอยู่ที่วัดระกาไกรสร ต.เพี้ยราม อ.เมืองสุรินทร์ และยังเคยไปจำพรรษาอยู่ที่ปราสาทตาเมือง และปราสาทตาควาย และไปเดินธุดงค์ในป่าลึก ซึ่งหลวงปู่ชอบอยู่ป่ามากกว่าอยู่วัด จนกระทั่งต่อมาได้มีปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงที่วัดโคกกรมเยอะ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ให้หลวงปู่มาอยู่เพื่อรักษาไว้ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งหลวงปู่ได้พัฒนาวัดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ จนวัดมีความเจริญขึ้นอย่างมากมาย โดยมีลูกศิษย์ที่คอยช่วยเหลือหลวงปู่ในการพัฒนาวัดมากมายหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นายณัฐวัฒน์ สมบูรณ์เทอดธนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ ซึ่งนับว่าเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนหนึ่งในการร่วมพัฒนาวัดโคกกลมแห่งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น