หนองคาย - มูลนิธิเส้นด้ายพาเด็กและผู้ปกครองนักเรียนที่ถูกครูทำร้ายแจ้งความดำเนินคดี ด้านครูหนุ่มสำนึกผิดพร้อมรับผิดชอบ ผกก.เร่งสอบ หวั่นครูและผู้ปกครองเผชิญหน้าจะเรียกมาสอบวันหลัง ยืนยันพ่อแม่เด็กเห็นคลิปน้ำตาไหล ไม่ยอมความ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
เช้าวันนี้ (16 พ.ย. 65) นางสาวชลิดา พละมาตรย์ อาสาสมัครมูลนิธิเส้นด้าย และคณะ ได้พาผู้ปกครองและนักเรียนชายที่ถูกครูพงษ์ หรือ นายพิพัฒน์พงษ์ สุวรรณโสภา ทำร้ายร่างกายที่โรงเรียนวังหลวงพิทยาสรรพ์ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เข้าพบ พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง (อ่านว่า พรึด) ผกก.สภ.เฝ้าไร่ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเด็ก โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย เข้าร่วมด้วย
ก่อนหน้านี้ ครูพงษ์ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเวลา 1 ชั่วโมง โดยมีรองผู้อำนวยการโรงเรียวังหลวงพิทยาสรรพ์เข้าร่วมด้วย ภายหลังให้ปากคำเสร็จ ครูพงษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ขอกลับไปทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาหนองคายก่อน ตนอยากจะบอกว่าเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตนรับผิดชอบและสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ
วันนี้มาแสดงความรับผิดชอบและขอให้เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาโทษของเจ้าหน้าที่ ส่วนข้อมูลต่างๆ ได้ให้เจ้าหน้าที่หมดแล้ว กล่าวจบแล้วก็ขึ้นรถออกไปทันที
ด้าน พ.ต.อ.ภฤศ ภาสว่าง ผกก.สภ.เฝ้าไร่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำครูผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่อยากให้มีการเผชิญหน้ากันระหว่างครูผู้ชายกับผู้ปกครองหรือเด็กที่ถูกกระทำ จึงให้ครูชายกลับออกไปก่อน และจะเชิญเด็กและผู้ปกครองที่ถูกทำร้ายในเคสแรกมาให้ปากคำในวันหลังร่วมกับสหวิชาชีพ วันนี้ทางมูลนิธิเส้นด้ายพาเด็กมาแจ้งความด้วย ก็ได้พูดคุยกันในข้อกฎหมาย ทางตำรวจเองพร้อมรับนำไปดำเนินการ จะดำเนินการสอบสวนให้รอบคอบทุกประเด็นกับทุกฝ่าย ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน
เบื้องต้นที่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้คือ ทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ผู้ปกครองหรือมูลนิธิต้องการแจ้งเพิ่มเติมก็จะรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ขอเวลาพิสูจน์ก่อน แต่จะดำเนินการให้รวดเร็ว
ขณะที่ นางสาวชลิดา พละมาตรย์ อาสาสมัครมูลนิธิเส้นด้าย กล่าวว่า เนื่องจากมี 2 เคส เคสแรกผู้ปกครองได้พาเด็กแจ้งความแล้ว เหลืออีกหนึ่งเคสในวันนี้จึงได้พาน้องและผู้ปกครองมาแจ้งความครูในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมได้พูดคุยกับผู้กำกับการปรึกษากันแล้ว ว่าจะดำเนินคดีต่อผู้อำนวยการฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องพิจารณากันว่าเข้าข่ายหรือไม่ ส่วนสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนนั้น คนแรกยังไปโรงเรียนได้ ส่วนน้องที่มาวันนี้ตั้งแต่เปิดเทอมยังไม่ไปโรงเรียนเลย สภาพจิตใจย่ำแย่ อายเพื่อน เพราะเพิ่งเข้ามาเรียนใหม่
ทางครอบครัวอยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด ถ้าแค่ย้ายก็ยังสามารถกลับมาทำงานรับราชการได้ใหม่ ยังกินเงินเดือนประชาชนได้อยู่ แต่ถ้ามีบทลงโทษที่หนักจะได้ให้สังคมเห็นเป็นตัวอย่างว่าครูทำร้ายเด็กจะถูกลงโทษ แล้วสภาพจิตใจเด็กที่ยังอยู่จะย่ำแย่เพียงใด เคสนี้เกิดเหตุกลางเดือนตุลาคม ในคลิปเห็นชัดเจนว่ามีร่องรอยบาดเจ็บแน่นอน
ทางด้านชุมชน ผู้ใหญ่บ้านเองในระยะแรกให้พ่อแม่เด็กยอมความไม่ให้เอาเรื่องเกรงจะเสียชื่อเสียงโรงเรียน ตอนแรกที่ยอมเพราะไม่เห็นคลิป แต่พอได้เห็นคลิปแล้วพ่อแม่ร้องไห้เลย ไม่ยอม และไม่รู้ว่าทำไมโรงเรียนไม่ปกป้องเด็กบ้าง หลังจากนี้ก็จะพาเด็กไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐานด้วย