กลายเป็นประเด็นร้อนช่วงข้ามคืน เมื่อ "มาดามลูกเกด" พัทธ์ธีรา ศุภศรีธนานันต์ ผู้บริหารทีมดังไทยลีก 2 อย่าง นครศรี ยูไนเต็ด มีประเด็นถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความนักเตะคู่กรณีว่ามีการใช้อาวุธข่มขู่
โดย "มาดามลูกเกด" พัทธ์ธีรา มีตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดูแลในส่วนการจัดหางบประมาณและสิทธิประโยชน์สปอนเซอร์ ให้กับสโมสร นครศรี ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความระบุ
"เมื่อวานเกิดเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิต!!! ถึงขั้นร้องไห้ไม่หยุด ยังไม่ได้นอน ใจสั่น และช็อคไม่หายจนตอนนี้ คิดถึงภาพเมื่อวานขึ้นมา สภาพจิตใจแย่เป็นพักๆ ร้องไห้ไม่หยุด"
"เกิดมาไม่เคยถูกผู้ชายกระโจนเข้ามาจะทำร้ายร่างกายแบบตั้งใจจะทำร้าย และซ้ำร้ายถึงขั้นวิ่งไปหยิบมีดในครัวจะมาแทง และขู่อาฆาตจะแทงให้ตาย และขู่ลูกน้องที่ไปด้วยว่าจะกระทืบให้ตายถ้าเจอที่ไหน โชคดีในเหตุการณ์มีบุคคลอยู่หลายคน ล็อคตัวคนผู้นั้นไว้ นึกถึงเมื่อวานถ้าโดนแทงตาย ข่าวคงดังไม่ใช่น้อย และคงทำให้ใครบางคนเสียอนาคตไปเลย กับความทำอะไรไม่คิด และไม่สำนึกผิด นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานตอนราวๆเที่ยงกว่า ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเราในชีวิต ตอนนี้แจ้งความไว้ที่สน.เรียบร้อย ต้องขอบพระคุณ คุณตำรวจที่ดูแลอย่างดี แถมเป็นแฟนบอลนครศรี ยูไนเต็ด จำกันได้ และคอยปลอบขวัญตลอดที่เห็นเราร้องไห้"
"หากมีจิตสำนึกผิดอยู่บ้าง เรื่องจะจบลงแบบเงียบๆ หากไม่มี จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เกิดมาในชีวิตพึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ผิดแต่ไม่สำนึก เก่งแต่กับผู้หญิง ที่ไม่มีทางสู้และมีแต่2มือเปล่า "
ขณะที่ สันติธรณ์ ลัทธิรมย์ นักเตะคู่กรณีได้ให้สัมภาษณ์กับแฟนเพจ FootballSiam ว่า เจ้าตัวอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสรุป 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1. คุณลูกเกดไม่สามารถบังคับตัวผมไปไหนก็ได้เป็นสิทธิส่วนบุคคล
2. เรื่องผมไปทำร้ายร่างกาย ผมยังไม่ได้ไปโดนตัว ที่พูดไปเพราะต้องการให้เขาออกจากบ้านผมไป เพราะเข้ามาพูดจาเสียงดังลูกชายผมตกใจร้องให้ มาด่าภรรยาผม ผมต้องปกป้องครอบครัว ผมไม่ได้มีเจตนาทำร้าย ผมไม่ได้หยิบมีด เป็นเพียงกรรไกรเพียงแค่การข่มขู่ให้เขาออกจากบ้าน
3. หลังจากซ้อมบอลเสร็จได้มีรถคันหนึ่งขับมาขวางหน้ารถเพื่อต้องการจะคุย แต่ผมบอกว่ามันไม่ได้เจรจานัดมาก่อนผมปฎิเสธที่จะคุย
ก่อนที่ "มาดามลูกเกด" จะแชร์โพสต์ที่ให้สัมภาษณ์ดังกล่าว พร้อมข้อความตอบโต้ว่า "Santitorn Lattirom หยุดเถอะก้าว!! เลิกเป็นคนโกหกเก่ง ทุกอย่างมันมีหลักฐาน ตอนแรกว่าจะไม่อะไรนะ แต่แลดูไม่สำนึกเลย แก้ตัวน้ำขุ่นๆ พยานบุคคลก็มี ที่พูดเอาดีเข้าตัวเองหมด ทั้งที่เรื่องจริงคืออะไรในแชทในคลิปเสียงและพยานบุคคลและไลน์กลุ่มยังมี แค่มาพูดคุยกันต่อหน้าและยอมรับความจริงและขอโทษมันจบนานแล้ว แมนพอและพร้อมให้อภัย"