xs
xsm
sm
md
lg

เจอตัวแล้ว! 2 หนุ่มเปิดศึกดวลขวดในร้านก๋วยเตี๋ยว เผยปมเดือดถูกถามหยาม “เคยติดคุกมั้ย คดีอะไร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - เจอแล้ว 2 หนุ่มเปิดศึกดวลขวดน้ำอัดลมในร้านก๋วยเตี๋ยวที่บุรีรัมย์จนเลือดอาบถูกหามส่ง รพ.ทั้งคู่ เผยปมพ่อค้าหมูที่ลงมือก่อนถูกถามเคยติดคุกที่ไหนคดีอะไรทำให้โมโหเหมือนถูกหยามจึงคว้าขวดฟาดหน้า ชี้ไม่รู้จักกันไม่ควรถามเรื่องส่วนตัว อีกฝ่ายเผยเห็นยิ้มให้จึงเดินไปนั่งด้วยเห็นลอยสักจึงถามเคยติดคุกมั้ยไม่คิดจะถูกตี ตร.เตรียมเรียกสอบทั้งสองฝ่าย

วันนี้ (13 พ.ย.) จากกรณีที่โลกออนไลน์ ได้แชร์คลิปชาย 2 คนใช้ขวดน้ำอัดลมทำร้ายร่างกายกันอย่างดุเดือดในร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายชำนิ-ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จนเลือดอาบได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ และข้าวของในร้านพังเสียหาย เหตุเกิดเวลาประมาณ 10.34 น. วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตามหาชายทั้ง 2 คนที่ปรากฏในคลิปเพื่อสอบถามถึงปมเหตุที่มีการทำร้ายร่างกายกัน ก็ไปพบนายภานุเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชายรูปร่างผอมที่ปรากฏในคลิปที่ถูกทำร้ายก่อน โดยสภาพใบหน้ามีบาดแผลถูกเย็บกว่า 10 เข็ม

นายภานุเดชเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกไม้ไปขายที่ ต.โคกกลาง พอขายไม้เสร็จก็แวะกินก๋วยเตี๋ยว ตอนเดินเข้าไปในร้านเห็นคู่กรณีซึ่งนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้วยิ้มให้จึงคิดว่าเป็นมิตร พอตนปรุงก๋วยเตี๋ยวเสร็จจึงถือเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคู่กรณี แล้วถามว่ารู้จักเพื่อนผมมั้ยเพราะเพื่อนตัวเองก็อยู่บ้านยางแต่อีกฝ่ายตอบไม่รู้จัก แล้วตนมองเห็นลายสักจึงถามไปว่า “พี่เคยติดคุกมั้ย เขาก็ตอบว่าเคย ตนก็ถามต่อว่าติดคดีอะไร เขาก็ตอบว่าคดีพยายามฆ่า” พอพูดจบก็ลุกไปหยิบขวดน้ำอัดลมมาฟาดที่หน้าของตนเองเลย ก็เห็นพี่เขาพูดด้วยดีไม่คิดว่าพี่เขาจะทำ ขวดแรกฟาดเข้าที่หน้าจนขวดแตกหน้าเลือดไหล ฟาดซ้ำอีกสองขวด พอตนเองตั้งหลักได้ก็จับขวดตีคืนอีกหลายขวด โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว และโมโหที่ถูกคู่กรณีตีก่อนแล้วรู้สึกเจ็บ

นายภานุเดช อายุ 24 ปี ชายรูปร่างผอม คนถามเคยติดคุกมั้ย ปมเดือดเปิดศึกดวลน้ำอัดลม
ยอมรับว่างงและตกใจที่พี่เขาใช้ขวดฟาดหน้าเพราะตอนแรกก็พูดคุยหัวเราะกันดีๆ ไม่ได้มีท่าทางไม่พอใจอะไร จึงไม่คิดว่าพี่เขาจะถือขวดมาตี เบื้องต้นตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศไว้แล้ว ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเจ็บมากกว่าแต่เขาเป็นฝ่ายทำร้ายร่างกายตนเองก่อน ถ้าตนไม่ป้องกันตัวอาจจะเจ็บหนักหรืออาจถึงเสียชีวิตก็ได้

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านคู่กรณี ซึ่งเป็นพ่อค้าขายเนื้อหมูที่ตำบลบ้านยาง ชื่อนายวสันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี (คนรูปร่างท้วมที่ปรากฏในคลิป) ซึ่งเพิ่งออกจาก รพ. โดยสภาพนายวสันต์ บริเวณใบหน้า ศีรษะปูดบวม มีแผลถูกเย็บเกือบทั้งหน้า และกรามเย็บกว่า 30 เข็ม จากที่ถูกอีกฝ่ายใช้ขวดตี แต่ไม่อนุญาตให้สื่อบันทึกภาพ


นายวสันต์ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุคู่กรณีเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวไปนั่งด้วยทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แล้วมาถามตนเองว่าเคยติดคุกมั้ย ติดคดีอะไร มันรู้สึกเหมือนกับหยามจิตใจ ซึ่งไม่สมควรที่จะถามแบบนี้เพราะไม่ได้รู้จักกัน และตนเองก็ทำอาชีพค้าขายคนรู้จักเยอะไม่ควรจะมาถามแบบนี้ แต่ถ้าคนดูจากภาพในคลิปก็อาจจะมองว่าตนผิดที่เป็นฝ่ายไปตีเขาก่อน เพราะในคลิปไม่ได้ยินเสียงว่าเขาพูดเยาะเย้ยเหยียดหยามตนเองก่อน สังคมจะตัดสินไปแค่ตามภาพที่เห็นเท่านั้นซึ่งมันก็ไม่เป็นธรรมต่อตน

ส่วนที่อีกฝ่ายไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายและอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวนั้น ตนก็จะแจ้งกลับเหมือนกันว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุเพราะตนก็บาดเจ็บสาหัสกว่าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ


ขณะที่ป้าจันทร์ แม่ของนายวสันต์ บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกชายอาจเป็นฝ่ายทำร้ายเขาก่อนแต่ก็อยากจะขอความเป็นธรรมให้ลูกด้วย เพราะลูกชายถูกอีกฝ่ายพูดหยามจิตใจด้วยการถามว่าเคยติดคุกหรือไม่ ติดคดีอะไร ซึ่งคนเราไม่เคยรู้จักกันก็ไม่ควรจะถามเรื่องแบบนี้ซึ่งมันไม่สมควรเพราะครอบครัวตนเองทำอาชีพค้าขายคนรู้จักเยอะ ยอมรับว่าลูกเคยติดคุกจริง 6 ปีคดีพยายามฆ่า แต่เขาได้รับโทษกับสิ่งที่ทำไปแล้วคนเราก็ผิดพลาดกันได้ไม่ควรจะมาตอกย้ำซ้ำเติมแบบนี้

ลูกตัวเองเป็นผู้ชายและเป็นคนใจร้อนถ้าใครพูดจาไม่เข้าหูจะอารมณ์ร้อน ตนพยายามบอกลูกตลอด แต่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอพูดถามหยามจิตใจคงทนไม่ไหว เบื้องต้นตำรวจให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ร้านก๋วยเตี๋ยวคนละครึ่งกับคู่กรณี แต่อีกฝ่ายไม่ยอมจ่าย ตนไม่อยากจะมีปัญหาจึงยอมชดใช้ฝ่ายเดียว 14,000 บาท ส่วนที่คู่กรณีจะมาเรียกร้องค่าเสียหาย 40,000 บาทนั้น คงไม่จ่ายเพราะลูกชายตนก็เจ็บหนักเหมือนกันคงให้ว่ากันไปตามกฎหมาย


ขณะที่ พ.ต.ท.เฉลียว พยัคฆกุล สารวัตร (สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้มีนายภานุเดช ฝั่งที่ถูกทำร้ายก่อนมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ซึ่งได้สอบปากคำเบื้องต้นไว้ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ตอนนี้รอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ว่าบาดเจ็บสาหัสหรือไม่สาหัส หลังจากนั้นจะเรียกสอบคู่กรณีทั้งสองฝ่าย แต่หากอีกฝ่ายจะแจ้งความว่าถูกทำร้ายเหมือนกันเป็นสิทธิ์สามารถแจ้งได้ ก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน




กำลังโหลดความคิดเห็น