ศรีสะเกษ - ตำรวจตามจับได้แล้ว 1 คนพร้อมอาวุธปืน แก๊งวัยรุ่นไพรบึงสุดป่าเถื่อนปืนจ่อหัว แล้วใช้มีดฟันและไม้ตี รุมยำ 2 หนุ่มน้อยหวิดดับ ต้องร้องอ้อนวอนขอชีวิตอย่างน่าเวทนา เมื่อทำร้ายจนพอใจแล้วบังคับให้เหยื่อคลานกลับบ้าน ใช้เท้ากระทืบและถีบไปตามท้องถนน เหยื่อลั่นดำเนินคดีถึงที่สุด
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นของ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ พากันใช้ปืนจ่อหัวแล้วใช้มีดฟันหลัง ใช้ไม้รุมตีทำร้ายร่างกายหนุ่มวัยรุ่น 2 คนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา โดยระหว่างที่รุมทำร้ายเหยื่อกลุ่มวัยรุ่นโหดได้ร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา และพยายามร้องบอกว่าไม่เคยมีเรื่องกับกลุ่มที่มารุมทำร้ายแต่อย่างใด โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้มีดฟันไปที่รถ จยย.จนพังเสียหาย เหยื่อรายหนึ่งโดนฟันที่หลังเลือดโชก เมื่อรุมทำร้ายจนพอใจแล้วให้ 2 หนุ่มวัยรุ่นคลานกลับไปบ้าน โดยเหตุการณ์ตามคลิปภาพเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของคืนวันที่ 26 ต.ค. 65 และมีการนำเอาคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านตาเจาใต้ หมู่ที่ 3 ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ได้พบกับ นายก้องเกียรติ จันทร์เพ็ง อายุ 43 ปี ซึ่งได้นำตัว นายเบส (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นหลานชายมาพบกับผู้สื่อข่าว ซึ่งนายเบสได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 26 ต.ค. 2565 ตนกับน้องคนหนึ่งชื่อ นายนะ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้เดินทางไปเที่ยวที่ตัว อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้พากันขับขี่รถ จยย.เดินทางกลับบ้าน
ในระหว่างเดินทางกลับบ้านมาถึงบริเวณบ้านหนองอารี ต.ดินแดง อ.ไพรบึง ได้พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนประมาณ 20 กว่าคนมาดักรออยู่ ตนจึงได้ขับขี่รถ จยย.เลี้ยวหลบไปอีกทางด้านหนึ่ง และพบว่าเป็นทางตัน จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากบ้านของชาวบ้านคนหนึ่ง แต่ปรากฏว่าชาวบ้านดังกล่าวได้ร้องตะโกนบอกกลุ่มวัยรุ่นที่ดักรออยู่ได้พากันกรูเข้ามาทำร้ายร่างกายพวกตน
โดยใช้อาวุธมีดฟันไปที่ด้านหลังของตน ใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะของตนไว้ ทำร้ายร่างกายนายนะ และใช้มีดฟันรถ จยย.ของตน ซึ่งตนได้ร้องอ้อนวอนขอชีวิตจากกลุ่มคนร้าย เมื่อคนร้ายทำร้ายร่างกายตนจนพอใจแล้ว ได้บังคับให้ตนคลานออกจากที่เกิดเหตุเพื่อกลับบ้านระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) โดยในระหว่างที่บังคับให้คลานไปได้ใช้เท้ากระทืบและถีบไปตามท้องถนน
นายเบส (นามสมมติ) เล่าต่อว่า ต่อมามีพลเมืองดีได้นำตนกับเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บส่งไปยัง รพ.ไพรบึง และกำนันภายในหมู่บ้านได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ไพรบึง หลังจากนั้นตำรวจ สภ.ไพรบึงได้ให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจาพูดคุยเพื่อตกลงค่าเสียหายเพื่อให้คดีนี้ยอมความกัน แต่ว่าตนไม่ยอมเพราะได้รับบาดเจ็บมาก เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 65 ตนจึงได้ไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สังวาลย์ รางสถิตย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ไพรบึง เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด ตนจะไม่ยอมความอย่างเด็ดขาด
ทางด้าน นายก้องเกียรติ จันทร์เพ็ง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 บ้านตาเจาเหนือ ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ น้าชายของนายเบส เหยื่อกลุ่มวัยรุ่นโหด กล่าวว่า ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 31 ต.ค. 65 เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ไพรบึง ทำการจับกุมคนร้ายได้ 1 คน โดยจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก ยาบ้าจำนวน 10 เม็ด ซึ่งนายเบส หลานชายของตนยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่รุมทำร้ายตนเอง ซึ่งจากการสอบถามตำรวจแจ้งว่าจะได้ทำการสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ยังเหลืออยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
