นครสวรรค์ - สาวเจ้าของร้านเค้กกลางเมืองตาคลีลั่นไม่ยอม ขอเอาเรื่องถึงขั้นออกจากราชการ..หลังโดน 2 หนุ่มบุกรุมยำ-ตีหัวแตกเย็บ 8 เข็มเลือดอาบคาร้านต่อหน้าลูกน้อย ปมปากดีกับพี่ตั้ม เผยล่าสุดมีเบอร์โทร.ลึกลับขอเคลียร์จบที่ 500,000 บาท
ความคืบหน้ากรณี น.ส.พรพิมล หุ่นพ่วง หรือแนน อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของร้านเค้กสุขใจ วงเวียนตาคลี อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โพสต์ร้องเรียนและนำหลักฐานคลิปวงจรปิดแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตาคลี ว่าถูกลูกน้องคนสนิทตำรวจในจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 2 คน ประกาศว่า.. "มาสั่งสอนคนที่พูดไม่ดีกับพี่ตั้ม" ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ศีรษะแตกเย็บ 8 เข็ม
และเมื่อเวลา 22.00 น.เศษ คืนวันที่ 15 ต.ค. 65 นายทศพล โพธิ์กัน หรือเหี่ยว และนายนิพนธ์ โพธิ์กัน หรือแชมป์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ต.อาทิตย์ แย้มกลิ่น สารวัตร สส.สภ.ตาคลี และถูกสอบสวนขยายผลนั้น
วันนี้ (17 ต.ค. 65) พ.ต.อ.อิทธิเดช อิ่มภูมี ผกก.สภ.ตาคลี ได้นำกระเช้าเดินทางไปเยี่ยม น.ส.พรพิมล หรือแนน หุ่นพ่วง ที่ถูกนายแชมป์ และนายเหี่ยว รุมทำร้ายจนบาดเจ็บ ที่ร้านเค้กสุขใจ บริเวณริมถนนวงเวียนตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
ผกก.สภ.ตาคลี ได้สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนจะมีการกล่าวปลอมขวัญ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าคดีนี้ตำรวจจะคอยคุ้มครองให้ความปลอดภัย และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากสอบสวนแล้วพบว่าคู่กรณีที่เป็นตำรวจในสังกัด สภ.ตาคลีมีความผิดจริงก็จะมีการลงโทษทางวินัย และดำเนินคดีอาญา โดยไม่มีการเข้าข้างหรือช่วยตำรวจด้วยกันเองอย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.พรพิมล ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ยังคงติดใจการให้ปากคำของคนร้าย ที่ระบุว่า..ตนไปกล่าวหานายแชมป์และนายเหี่ยวว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเด็กเดินสายล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักเขาทั้งคู่ แล้วก็เพิ่งจะย้ายมาเปิดร้านขายเค้กอยู่ที่ อ.ตาคลี ได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น จะไปรู้และไปพูดกล่าวหาพวกเขาได้อย่างไร
และวันนั้น (วันเกิดเหตุ) พวกเขาก็เป็นคนพูดเองว่า..พี่ตั้มสั่งมา จึงมองว่าเป็นการแก้ต่างเพื่อไม่สาวไปถึงนายตั้ม ที่เป็นคนใช้ให้พวกเขามารุมทำร้ายตนมากกว่า ส่วนที่ทั้งคู่บอกว่าใช้เพียงแค่หมวกกันน็อกตีตนจนศีรษะแตกเย็บ 8 เข็มนั้น ตนมองว่า รอยแผลแตกเป็นทางยาวแบบนี้ ไม่น่าจะใช่หมวกกันน็อกเพียงอย่างเดียวอย่างแน่นอน
“ตั้งแต่เกิดเรื่องจนมีข่าวเป็นที่สนใจของประชาชน ดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายนั้น โทร.มาขอให้จบเรื่องไม่เอาความ พร้อมกับยื่นข้อเสนอเป็นเงินถึง 500,000 บาท เพื่อให้จบเรื่องราวทุกอย่าง แต่ดิฉันยืนยันไม่ยอม ทำเจ็บเลือดอาบหน้าขนาดนี้ แถมยังทำร้ายต่อหน้าลูกน้อย ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน คิดดูจะกระทบกระเทือนจิตใจลูกของดิฉันมากแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกคน ทั้งนายแชมป์และนายเหี่ยว รวมถึงพี่ตั้มที่เป็นตำรวจ หากเป็นไปได้ดิฉันจะร้องเรียนให้พี่ตั้มออกจากราชการไปเลย เพราะเป็นถึงตำรวจ กลับใช้อำนาจหน้าที่มารังแกประชาชนแบบนี้ สมควจจะเป็นตำรวจต่อไปหรือไม่”
เมื่อถามถึงความปลอดภัย น.ส.พรพิมลระบุว่า ถึงแม้ตอนนี้จะมีการดำเนินคดีต่อนายแชมป์และนายเหี่ยว จนมีการสั่งย้ายพี่ตั้มให้ออกจากพื้นที่ และทาง ผกก.สภ.ตาคลี รับปากจะมีการส่งเจ้าหน้าที่หมุนเวียนมาตรวจตราและคอยดูแลความปลอดภัยให้แล้วก็ตาม แต่ตนก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี ซึ่งตนห่วงมากในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะลูกของตนที่ยังเล็ก กลัวจะได้รับอันตรายตามไปด้วย เพราะทางฝั่งคู่กรณียังเป็นตำรวจที่ยังมีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่
ขณะที่ พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒน์สิริ รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่า หลังจากมีหนังสือคำสั่งของตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ ให้ ส.ต.อ.อนุรักษ์ ด้วงสั้น ผบ.หมู่ ทำหน้าที่สืบสวน สภ.ตาคลี มาปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ นั้น พบว่าเช้าวันนี้ ส.ต.อ.อนุรักษ์ ได้เดินทางมารายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ตามคำสั่งแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยคำสั่งให้เจ้าตัวมาประจำการอยู่ที่นี่ เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สภ.ตาคลีดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย หากพบว่าเจ้าตัวมีส่วนผิดจริงในการเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ก็ให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และในส่วนของ ภ.จว.นครสวรรค์ ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส.ต.อ.อนุรักษ์ ด้วยเช่นกัน
ตนขอยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน จึงขอให้สบายใจได้ หากพบว่ามีความผิดก็ดำเนินคดีไปตามความผิด แถมยังต้องถูกลงโทษตามวินัยของตำรวจด้วย แต่ก็ต้องรอผลการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายก่อนจะดำเนินการต่อไป