จันทบุรี - ผอ.สวพ. 6 มือปราบทุเรียนอ่อน-ทุเรียนสวมสิทธิ เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากราชการในวันนี้ หลังไม่ยอมรับคำสั่งย้ายกรมวิชาการเกษตร พร้อมเดินหน้าก่อตั้งสมาคมเครือข่ายพิทักษ์ทุเรียนไทย หวังดูแลชาวสวนต่อไป
จากกรณีที่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ จ.จันทบุรี รวมทั้งผู้ประกอบการส่งออกผลไม้และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รวมตัวให้กำลังใจ นายนายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่ 6 (สวพ.6) หลังกรมวิชาการเกษตร มีคำสั่งฟ้าผ่าให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช ทั้งที่สร้างผลงานปราบปรามทุเรียนอ่อน และขบวนการสวมสิทธิทุเรียนไทยจนเป็นที่ประจักษ์
ขณะที่เจ้าตัวเตรียมรวบรวมหลักฐานร้องศาลปกครอง หลังมีความเชื่อว่าคำสั่งย้ายด่วนดังกล่าวเกิดจากฝีมือขบวนการหากินกับทุเรียนอ่อน และทุเรียนสวมสิทธิที่เคยมีความพยายามจะย้ายตนเองออกจากพื้นที่ ที่สำคัญขณะนี้ใกล้ถึงฤดูผลผลิตรอบใหม่ที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่น้อยกว่า 1 ล้านตันนั้น
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 จะเขียนใบลาออกจากราชการเพื่อยื่นต่อหน่วยงานต้นสังกัด และหนังสือขอลาออกจะถูกส่งเข้าตามระบบราชการ ซึ่งจะมีผลในการลาออกคือวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มอาสาสมัครทุเรียนไทย ยังคงคัดค้านคำสั่งโยกย้าย นายชลธี เนื่องจากมองว่า นายชลธี คือผู้พลิกฟื้นวงการผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะทุเรียน จนให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและยังทำให้ทุเรียนภาคตะวันออกขึ้นแท่นผลไม้ส่งออกอันดับ 1 ของประเทศเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ยังมีกระแสข่าวในพื้นที่ว่า หลังการยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว นายชลธี นุ่มหนู จะก่อตั้งสมาคมเครือข่ายพิทักษ์ทุเรียนไทยเพื่อให้เป็นองค์กรสำหรับช่วยเหลือชาวสวนต่อไป
โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า นายชลธี ยังมีความเป็นห่วงชาวสวน และเกษตรกรที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาทุเรียนคุณภาพที่ส่งผลกระทบต่อราคารับซื้อในตลาด และความเชื่อมั่นของคู่ค้าในต่างประเทศ
“ผอ.ชลธี เคยให้เหตุผลว่าการทำทุเรียนให้มีคุณภาพคือ ขนาดได้ ไม่มีเพลี้ยแป้ง ราดำ และอื่นๆ จะทำให้ผู้ประกอบการได้ราคาขายที่ปลายทางดีขึ้น แม้ขณะนี้จะเริ่มมีคู่แข่งเข้ามาเจาะส่วนแบ่งตลาดแล้วก็ตาม” แหล่งข่าว กล่าว