บุรีรัมย์ - ผู้ใหญ่บ้านเมากร่างควงปืนบุกจี้ขู่ฆ่าลูกบ้านชิงลาออกแล้ว ด้านตำรวจเรียกสอบพยานเพิ่มก่อนเรียก ผญบ.มาสอบปากคำ และสรุปสำนวนคดีส่งอัยการ ขณะชาวบ้านรู้สึกสบายใจขึ้นและมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ความคืบหน้าจากกรณีที่ชาวบ้านในตำบลบุกระสัง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์ และร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.หนองกี่ กรณีผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเมาแล้วใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ โดยการพกพาอาวุธปืนบุกเข้าไปในบ้านชาวบ้านในยามวิกาล แล้วตะโกนถามหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน ก่อนชักอาวุธปืนจี้หน้าอกหลานชายของหญิงคนดังกล่าวแล้วโวยวายขู่จะยิงตายให้หมด ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องช่วยกันแย่งปืนจากมือของผู้ใหญ่บ้านจนปืนเกิดลั่น 1 นัด แต่เคราะห์ดีที่กระสุนไม่ได้โดนใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเด็กเพราะตกใจกลัว เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ 19 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนร้องเรียนมีการดื่มสังสรรค์กันเสียงดังจึงมาระงับเหตุ ขณะชาวบ้านกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและผวาไม่ปลอดภัย หลังจากผู้ใหญ่บ้านคนที่ก่อเหตุได้รับการประกันตัวออกมา และยังคงดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านตามปกติ ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (28 ต.ค.) นายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายอำเภอหนองกี่ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาเมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้านโดยเฉพาะเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน ทางอำเภอได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือระเบียบข้อห้ามหรือไม่ เพื่อสรุปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน
แต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเรียนกล่าวหาได้ยื่นใบลาออกต่อทางอำเภอแล้ว โดยให้เหตุผลว่าจะไปประกอบอาชีพอื่น ซึ่งตนได้เซ็นอนุมัติและมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่บ้านลาออกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสอบเอาผิดวินัย เพียงแจ้งความคืบหน้าให้ทางจังหวัดทราบ และดำเนินการเรื่องการจัดเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านคนใหม่มาดำรงตำแหน่งไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหมู่บ้าน ส่วนเรื่องคดีก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการเพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหายังไม่ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ขณะชาวบ้านผู้เสียหายและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เดินทางเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวนที่ สภ.หนองกี่ แต่ตำรวจยังไม่ได้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาสอบปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีส่งอัยการตามขั้นตอนต่อไป
น.ส.เบญจวรรณ อายุ 30 ปี ลูกสาวป้าจง หญิงคู่กรณีกับผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า หลังทราบว่าผู้ใหญ่บ้านได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตนเองและครอบครัวก็รู้สึกสบายใจขึ้น และมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่หากยังดำรงตำแหน่งอยู่ก็กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนกรณีที่ลูกของผู้ใหญ่บ้านแจ้งความกลับว่าชาวบ้านทำร้ายร่างกายผู้ใหญ่บ้านนั้น ไม่ได้กังวลอะไรเพราะยืนยันว่าไม่ได้มีใครทำร้าย แต่เป็นช่วงชุลมุนที่ยื้อแย่งปืนจากมือผู้ใหญ่บ้านเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น เพราะถ้าไม่แย่งปืนจากมือผู้ใหญ่บ้านก็อาจเกิดการสูญเสียขึ้น
“ขอบคุณทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความเป็นธรรมและช่วยเร่งรัดดำเนินการกรณีที่เกิดขึ้นให้ เพื่อความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน” น.ส.เบญจวรรณกล่าว