บุรีรัมย์ - น้ำมูลเอ่อท่วมมูลนิธิสวนแก้วของ “พระพยอม” สาขาบุรีรัมย์ หนักสุดในรอบกว่า 10 ปี เร่งอพยพทั้งคน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง วัว ควาย แพะ สุนัข แมว ร่วม 100 ตัวขึ้นที่สูง เร่งสูบน้ำออกจากซูเปอร์มาร์เกตป้องกันความเสียหาย และเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำจากนครราชสีมาที่จะไหลมาสมทบอีก
วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่าน จ.บุรีรัมย์ ยังมีปริมาณเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เอ่อท่วมมูลนิธิสวนแก้ว สาขาบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ที่บ้านวังปลัด ต.บ้านแพ อ.คูเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในมูลนิธิของ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ทั้งบ้านพักคนงาน คนไร้ที่พึ่ง คนด้อยโอกาส และเด็กนักเรียนที่มาทำงานช่วงปิดเทอม บ่อปลา คอกสัตว์ ซูเปอร์มาร์เกต และจุดต่างๆ ภายในมูลนิธิฯ เกือบทั้งหมด จนต้องย้ายคนงาน คนไร้ที่พึ่ง คนด้อยโอกาส และนักเรียน กว่า 90 ชีวิต ขึ้นไปพักอาศัยบนอาคารที่น้ำท่วมไม่ถึงเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ยังช่วยกันอพยพสัตว์เลี้ยง ทั้ง วัว ควาย แพะ สุนัข และแมว ร่วม 100 ตัว ขึ้นไปเลี้ยงไว้บนอาคารอเนกประสงค์ ไม่ให้น้ำทะลักท่วมถึงด้วย ส่วนสิ่งของภายในซูเปอร์มาร์เกตก็ได้ขนย้ายขึ้นที่สูง และเร่งสูบน้ำที่ทะลักเข้าภายในซูเปอร์มาร์เกตออก ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเสียหายด้วย พร้อมทั้งได้ทำการวางแนวกระสอบทรายกั้นด้วย แต่สิ่งที่ไม่สามารถขนย้ายหนีน้ำได้คือ ต้นไม้ทั้งไม้ผล และไม้เศรษฐกิจที่ปลูกเอาไว้ เช่น ต้นปาล์ม ไผ่ และต้นมะม่วงหลายร้อยต้น ก็ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด
พระวุฒิ พระผู้ดูแลมูลนิธิสวนแก้ว สาขาบุรีรัมย์ บอกว่า ปีนี้น้ำทะลักเข้าท่วมมูลนิธิสวนแก้วสาขาบุรีรัมย์ตั้งอยู่ติดริมน้ำมูลหนักกว่าปี 2553 ปีนี้ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมดของพื้นที่ แต่ก็สร้างความเสียหายน้อยกว่า เพราะจากประสบการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2553 ก็ได้มีการเตรียมพร้อมไว้ทั้งการขนย้ายสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงขึ้นไว้บนที่สูงไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รวมทั้งให้ช่างมาย้ายจุดปลั๊กไฟไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัย
แต่บางจุดก็ถูกน้ำทะลักท่วมสูงเกือบ 2 เมตร และที่ยังกังวลคือ มวลน้ำจากนครราชสีมาที่จะไหลมาสมทบเพิ่มเติมอีก แต่ทางหลวงพ่อก็ได้กำชับให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด