ชื่อพ้องกันแต่ไม่ได้ออกหน้าเป็นเครือเดียวกับบริการค่ายเงินติดล้อ สำหรับ “Pay Next เงินติดมือ” บริการใหม่ที่ “ทรูมันนี่” จับมือออกสินเชื่อโดย “แอสเซนด์ นาโน” เพื่อนำเสนอ “วงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง” หรือ BNPL (buy now pay later) ในระดับแมสทั่วไทย ฟันธงตลาด BNPL อนาคตสดใสเพราะตอบกลุ่มคนไม่อยากคอยเติมเงินเข้าวอลเล็ต และสามารถรวมยอดใช้จ่ายเพื่อชำระทีเดียวตอนปลายเดือน สุดภูมิใจทรูมันนี่มีจุดชำระเงินมากที่สุดเมื่อเทียบกับรายอื่นในตลาด ตั้งเป้าต้องเพิ่มจุดชำระเงินให้มากขึ้นเป็น 2 เท่าในปีหน้า และปีต่อๆ ไป เพื่อดันฐานลูกค้าแตะ 3 ล้านรายปี 66
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวถึงที่มาของบริการ Pay Next เงินติดมือ ว่าเกิดจากมุมมองของกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคยุคใหม่จำนวนมากที่เห็นผลิตภัณฑ์การเงินประเภทใช้ก่อนจ่ายทีหลัง เป็นเครดิตทางการเงินที่ช่วยให้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกสบายและจัดการเรื่องเงินได้ง่าย ผลการสำรวจพบว่าคนกลุ่มนี้รู้สึกไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสดออกไปก่อน จาก insights นี้ บริษัทได้พัฒนาบริการ Pay Next โดยทยอยให้ลูกค้าทดลองใช้ในช่วงที่ผ่านมา จนมาถึงการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้าทั่วประเทศในระดับแมส
“จากการเป็นแพลตฟอร์มการใช้จ่ายที่ตอบรับความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ และการขยายบริการการเงินที่หลากหลายในช่วงที่ผ่านมา เราได้พัฒนาและเปิดตัวบริการ ‘Pay Next เงินติดมือ’ วงเงินใช้ก่อน จ่ายทีหลัง เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มความคล่องตัวในการใช้จ่ายผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท”
น.ส.มนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาด BNPL ในไทยได้ดีดตัวสูงเกินระดับ 6 หมื่นล้านบาทแล้ว โดยอีก 5 ปีมีโอกาสจะขยายตัวขึ้นอีก 10 เท่า ขณะเดียวกัน ตลาดรวม BNPL ไทยยังมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางเดียวกับประเทศจีน ซึ่งสถิติล่าสุดชี้ว่า 15% ของประชากรจีนเป็นผู้ใช้บริการ BNPL แล้วเรียบร้อย ดังนั้น ปัจจัยสนุนให้ฐานผู้ใช้ BNLP ในไทยขยายตัวนั้นจะเห็นได้หนาตาขึ้นอีก
“ความโดดเด่นหนึ่งของทรูมันนี่ วอลเล็ท คือการช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการใช้จ่ายที่หลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ทำให้ลูกค้าทรูมันนี่สามารถใช้วงเงิน Pay Next ใช้จ่ายได้ทั้งในแบบออนไลน์เพื่อตอบรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นจ่ายบิล เติมเน็ต จ่ายซื้อแอป-ซื้อเกม ชอปออนไลน์ หรือสมัครดูหนังฟังเพลง ทุกอย่างสามารถทำได้ทั้งหมดเพราะทรูมันนี่ให้บริการจ่ายออนไลน์ ผ่านจุดรับชำระออฟไลน์ที่ครอบคลุมร้านค้าชั้นนำและร้านค้ารายย่อยมากกว่า 200,000 จุดทั่วประเทศ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ร้านอาหาร ร้านค้าชั้นนำและร้านค้ารายย่อยทั่วไป เป็นต้น”
ทรูมันนี่ วอลเล็ท แคลมว่าตัวเองมีจุดชำระเงินมากที่สุดเมื่อเทียบกับรายอื่นในตลาด โดยแบ่งเป็นการชำระเงินแบบออฟไลน์ 200,000 จุด และแบบออนไลน์ กว่า 1.5 ล้านจุดชำระเงิน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี virtual Mastercard ที่ผู้ใช้สามารถใช้ชำระเงินได้ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องเพิ่มจุดชำระเงินให้มากขึ้นเป็น 2 เท่าในปีหน้า และปีต่อๆ ไป
ในภาพใหญ่ ทรูมันนี่ยกตัวเองเป็นผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนต์ และผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และบริการ Pay Next ในระดับแมส บริษัทได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาที่สาธิตให้เห็นว่าลูกค้าเข้าถึงวงเงินเพื่อใช้จ่ายได้ง่ายผ่านแอป ทรูมันนี่ วอลเล็ท สมัครง่ายแบบไม่ต้องยื่นเอกสารใด สามารถรู้ผลอนุมัติใน 5 นาที ให้วงเงินสูงสุดถึง 10,000 บาท โดยเมื่อสมัครและอนุมัติแล้วสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที ไม่มีดอกเบี้ยหากชำระภายในกรอบเวลาที่กำหนด หรือเลือกผ่อนได้สูงสุดถึง 5 เดือน
***หนี้เสียเสมอตัว
แม้จะไม่ต้องส่งหลักฐาน แต่ผู้บริหารย้ำว่าบริการ Pay Next เงินติดมือนี้ไม่สร้างความเสี่ยงเรื่องหนี้เสียเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราการล้มเหลวในการเก็บเงินคืนนั้นยังคงอยู่ในระดับเสมอตัวกับอุตสาหกรรรม ซึ่งขณะนี้ทรูมันนี่ วอลเล็ทมีฐานผู้ใช้เกือบ 26 ล้านรายทั่วไทย คาดว่าอีก 2 ปีจะขยายได้เกินครึ่งของประชากรไทย
สำหรับกรณีของบริการ Pay Next เงินติดมือ บริการนี้ได้เริ่มทยอยให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้บริการ Pay Next ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีลูกค้าทรูมันนี่ที่สมัคร Pay Next แล้วมากกว่า 2 ล้านราย คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 3 ล้านรายในปี 2566
ในอีกด้าน การสำรวจกลุ่มตัวอย่างของผู้ใช้ Pay Next เงินติดมือ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ากว่า 94% มีความพึงพอใจกับบริการ เพราะมองว่าตอบโจทย์การใช้จ่ายที่ช่วยให้ไม่ต้องออกเงินตัวเองไปก่อน สะดวกเพราะไม่ต้องคอยเติมเงินเข้าวอลเล็ต และสามารถรวมยอดใช้จ่ายเพื่อชำระทีเดียวตอนปลายเดือนได้ เป็นต้น
“เป็นธรรมดาที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการจะไม่มีทางถูกใจผู้บริโภคได้ 100% โดยเรามองว่าอีก 6% อาจจะมีเหตุผลหลากหลายแตกต่างกันไป บางคนอาจจะเคยชินกับการใช้บริการในรูปแบบเดิมมากกว่า”
เมื่อถามว่าแนวโน้มการแข่งขันในตลาด BNPL จะไปทางไหนในอนาคต ผู้บริหารระบุว่า บริษัทมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นหลัก โดยตั้งใจมอบบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานและช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่งนอกเหนือจากบริการ Pay Next เงินติดมือแล้ว ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ Pay Next ยังมีอีกหนึ่งบริการบนทรูมันนี่ วอลเล็ท ที่ชื่อว่า เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า (Pay Next Extra) วงเงินสะดวกใช้ผ่อนสบาย* สำหรับใช้ผ่อนชำระสินค้าและบริการจากร้านค้าพาร์ตเนอร์ที่ร่วมรายการ โดยให้วงเงินเพื่อใช้ซื้อสินค้าสูงถึง 50,000 บาท ผ่อนสบายนานสูงสุด 36 เดือน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตก็สามารถผ่อนชำระสินค้าได้ ปัจจุบันมีร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 5,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งร้านค้าปลีก ร้านสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทโฟน ร้านทองและเครื่องประดับ คลินิกความงามและสุขภาพ โดยทรูมันนี่ ตั้งเป้าขยายบริการ Pay Next Extra ให้ครอบคลุม 7,000 ร้านค้าในปีนี้