xs
xsm
sm
md
lg

จ.กาญจน์เจออิทธิพลพายุเต็มๆ ยกเว้น อ.ทองผาภูมิ-สังขละบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางเจออิทธิพลพายุถล่มเต็มๆ เผยเป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วง 1-2 วันนี้ ยกเว้น อ.ทองผาภูมิ-สังขละบุรี
 
จากกรณีกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 2 (273/2565) ลงวันที่ 9 ต.ค.65 แจ้งว่าในช่วงวันที่ 9-14 ต.ค.65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางพื้นที่ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค.65 หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 10-11 ต.ค.65
 
ล่าสุด วันนี้ (11 ต.ค.) นายอุทัย ขันทอง รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประจำวันที่ 11 ต.ค.
 
พบว่า ปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชม.ที่สถานี ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค วัดได้ 122.2 มม. สถานี ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค วัดได้ 112 มม. สถานี ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา วัดได้ 92.4 มม. สถานี ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี วัดได้ 76 มม. สถานี ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี วัดได้ 62.6 มม. สถานี ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี วัดได้ 58 มม. สถานี ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย วัดได้ 47.2 มม.สถานี ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ วัดได้ 24.4 มม.สถานี ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ วัดได้ 14.6 มม.
 
จากสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีที่ผ่านมาในรอบ 24 ชม.สรุปได้ดังนี้ อ.เมืองกาญจนบุรี มีฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่โดยเฉพาะถนนหมายเลข 367 ตั้งแต่แยกวังสารภี ไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเขาตอง ระยะทางประมาณ 2 กม. และบริเวณถนนริมทางรถไฟ หมู่ที่ 11 ตำบลปากแพรก (หน้าซอยเอื้ออารีย์) มีน้ำท่วมขัง รถสามารถผ่านได้
 
สาเหตุเนื่องจากบ้านเรือนราษฎรท้ายซอยมีน้ำท่วม เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปากแพรก ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกไปยังคลองฝั่งตรงข้าม ถนนลอยต่อมายังหมู่ที่ 5 ตำบลปากแพรก บริเวณโค้งแก้มลิง ตลอดจนถนนพัฒนากาญจน์ มีปริมาณน้ำท่วมขังเล็กน้อย ซึ่งทางเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และอบจ.กาญจนบุรี ได้นำรถแบ็กโฮกำจัดวัชพืช ขยะปฏิกูล และสิ่งต่างๆ ที่ขวางทางน้ำเรียบร้อยแล้ว สำหรับบริเวณหมู่ที่ 12 ตำบลปากแพรก ปริมาณน้ำเริ่มลดลง เนื่องจากทาง อบจ.กาญจนบุรี และเทศบาลเมืองปากแพรก ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำลงไปยังท่อระบายน้ำทุกวัน
 
อ.ศรีสวัสดิ์ ในพื้นที่มีฝนตกเล็กน้อย ปานกลาง ปัจจุบันยังไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ พื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัย มี 3 ตำบล ประกอบด้วย บ้านปากเหมือง ต.ด่านแม่แฉลบ เฝ้าระวังมวลน้ำสะสมจากภูเขา บ้านองหลุ อ.นาสวน เฝ้าระวังมวลน้ำจากลำห้วยองหลุล้นตลิ่ง และบ้านบนเขาแก่งเรียง ต.ท่ากระดาน สำหรับเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ยังปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์น้ำยังไม่ปกติ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ น้ำตกเอราวัณเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้บริเวณชั้น 4 และงดลงเล่นน้ำ เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังไม่ปกติ
 
อ.บ่อพลอย ในพื้นที่มีฝนตกเล็กน้อย ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำอีซูที่ไม่มีสปิลเวย์ในพื้นที่ อบต.หนองรี หมู่ที่ 7 มีปริมาณน้ำมาก จำเป็นต้องขุดร่องถนนระบายน้ำออกไปยังอ่างลำอีซูที่มีสปิบเวย์ เพื่อไม่ให้น้ำหลากเข้าไปส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันน้ำจากลำตะเพิน เอ่อเข้าท่วมทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 15 ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 10 ครัวเรือน การให้ความช่วยเหลืออำเภอบ่อพลอย นำถุงยังชีพแจกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ร.29 พัน 2 นำรถบรรทุก 1 คัน กำลังพล 17 นาย เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ สำนักงาน ปภ.กาญจนบุรี และชุดปฏิบัติการใต้น้ำทีมชลกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำเรือท้องแบนอำนวยความสะดวกการสัญจรในพื้นที่ จำนวน 3 ลำ
 
อ.ท่าม่วง ในพื้นที่มีฝนตกเล็กน้อย ปานกลาง (10 ต.ค.) เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ จำนวน 2 ตำบล ได้แก่ 1.ตำบลวังศาลา หมู่ 10 บริเวณอุโมงค์ทางด่วน มอเตอร์เวย์เกิดน้ำท่วมขัง อำเภอท่าม่วง ได้ประสานเทศบาลตำบลวังศาลา นำกระสอบทรายมากั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งผ่านได้ตามปกติ  และตำบลหนองตากยา หมู่ 1, 2, 3, 5, 10, 14 และ 16 มีน้ำท่วมขังในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายปริมาณน้ำได้ลดลงในระดับปกติ อำเภอท่าม่วง ได้กำชับ อบต.หนองตากยา ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุอุทกภัยให้เร่งดำเนินการเข้าช่วยเหลือ และรายงานให้อำเภอทราบ
 
อ.พนมทวน มีน้ำหลากในพื้นที่ทำให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่ 2 ตำบล 1.ตำบลหนองโรง สถานการณ์เริ่มน้ำหลากมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อหมู่ 5 บ้านห้วยด้วน หมู่ 7 บ้านวังรักษ์  หมู่ 15 บ้านนาพระยา ระดับน้ำสูงขึ้น โดยมีน้ำไหลผ่านข้ามถนนบ่อพลอย-พนมทวน ที่จะไหลลงมาที่บ้านห้วยด้วน หมู่ 5 ลดลง รวมทั้ง บริเวณบ้านห้วยด้วนลดลงเช่นกัน แต่มวลน้ำที่ไหลมาจาก 2 พื้นที่จะไหลไปที่บ้านห้วยสะพาน และพื้นที่ ต.ทุ่งสมอ โดยเบื้องต้นได้ประสานผู้นำ ผู้ใหญ่บ้านให้เตรียมรับสถานการณ์ดังกล่าวและได้นำกระสอบทรายมากั้นบริเวณที่คาดว่าน้ำจะไหลเข้ามาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมประสานหน่วยงานเตรียมความพร้อม
 
2.ตำบลทุ่งสมอ สถานการณ์น้ำฝนตกมาก มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหลากทุ่งนา หมู่ 3 ต.ทุ่งสมอ โดยน้ำหลากมาจากห้วยประดู่ ต.หนองโรง ซึ่งขณะนี้เฝ้าระวังสถานการณ์และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ทั้งนี้ อำเภอพนมทวนได้ประสาน อปท.ในพื้นที่ ทหาร ป.109 เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 
 
อ.ไทรโยค มีฝนตกทุกพื้นที่ของอำเภอ เกิดน้ำหลากท่วมถนนบางพื้นที่และหลากเข้าบ้านประชาชน รวมถึงพืชไร่ หากฝนหยุดตกคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาไม่นานเพื่อรอน้ำระบายและเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 
 
อ.ท่ามะกา สถานการณ์โดยรวมในอำเภอท่ามะกามีฝนตกปานกลางทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณหมู่ที่ 9, 15 ต.พระแท่น และหมู่ที่ 1, 16 ต.ตะคร้ำเอน มีน้ำท่วมขังบริเวณบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน โดยอำเภอท่ามะกาได้ประสาน อปท. กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าช่วยเหลือติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ให้ปริมาณน้ำลดลงกลับสู่สภาวะปกติแล้ว 
 
สำหรับ อ.ทองผาภูมิ ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ในการนี้ อำเภอทุกอำเภอได้ประสาน อปท. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากเกิดเหตุอุทกภัยให้รีบรายงานอำเภอและเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยในวันนี้ ปภ.สาขาทองผาภูมิ ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี พบว่า อ.ทองผาภูมิ มีฝนตกเล็กน้อย ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ และ อ.สังขละบุรี มีฝนตกเล็กน้อย ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ ทั้ง 2 อำเภอได้กำชับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับถนนที่ผู้ใช้รถควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ ถนนสาย 367 ตั้งแต่แยกวังสารภี ไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเขาตอง ระยะทางประมาณ 2 กม.โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ และถนนริมทางรถไฟ หมู่ที่ 11 ตำบลปากแพรก (หน้าซอยเอื้ออารีย์) เนื่องจากยังมีน้ำท่วมขัง
 
ส่วนบริเวณท่าน้ำหนองบัว พื้นที่หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี พบว่ามวลน้ำจากแม่น้ำแควใหญ่ได้เอ่อล้นเข้ามาท่วมร้านค้าที่อยู่บนฝั่ง ทำให้ผู้ประกอบร้านค้าต่างเริ่มขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว








กำลังโหลดความคิดเห็น