ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พ่อพาเยาวชนชายวัย 15 ปี คนขับ BMW ฝ่าไฟแดงชนจยย.บัณฑิตวิศวะเกียรตินิยมดับ ดอดพบพนักงานสอบสวนรับทราบ 3 ข้อหาพร้อมให้การรับสารภาพ ตร.ยันผลตรวจคนขับเก๋งไม่พบดื่มแอลกอฮอล์ ย้ำทำคดีตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมสองฝ่าย ส่วนการเยียวยาชดใช้เป็นเรื่องคู่กรณีเจรจากันเอง
วันนี้ (4 ต.ค.) กรณีเกิดอุบัติเหตุบริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ประตู 1 ก่อนถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ตำบลสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) สีขาว สภาพด้านหน้ารถพังยับ ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน สีแดง สภาพรถพังยับเยินเช่นเดียวกัน และพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายธนพล แก้วมูล หรือเต้ อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ สภาพนอนจมกองเลือด กระดูกตามร่างกายหักหลายแห่ง ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นบัณฑิตวิศวะ มทส. ระดับเกียรตินิยม เพิ่งรับปริญญาบัตรไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งเป็นเยาวชนชายวัยรุ่น อายุ 15 ปี ขับรถมากับเพื่อนวัยรุ่นด้วยกันรวม 3 คน โดยคนในรถยนต์เก๋งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งเยาวชนชายคนขับมีอาการตกใจ และยืนรอแสดงตัวต่อตำรวจที่จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณแยกที่เกิดเหตุพบว่ารถยนต์เก๋ง BMW ได้ขับฝ่าสัญญาณไฟแดงมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของนายธนพลจนเสียชีวิตดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน 2565 ท้องที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและชาวโลกออนไลน์เป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุด พ.ต.ท.ไพศาล ปันเร็ว สารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ต.ค.) ผู้ปกครองได้พาน้องเยาวชนชาย อายุ 15 ปี คนขับรถยนต์เก๋ง BMW คันก่อเหตุ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเยาวชนชายคนขับ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่เยาวชนชายคนขับ 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต 2. ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง และ 3. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งเยาวชนชายคนขับยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และไม่รู้สึกหนักใจ ตำรวจยืนยันดำเนินการทุกอย่างไปตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องศาลต่อไป
สำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องเยาวชนชายคนขับรถเก๋งมีอาการมึนเมาขณะขับรถหรือไม่นั้น หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ดำเนินการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว และไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด โดยยืนยันว่าตำรวจทำคดีตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะเจรจากัน ตรงนี้ตำรวจคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย โดยในวันนี้ (4 ต.ค.) ทราบว่าผู้ปกครองจะพาตัวน้องเยาวชนชายคนขับเก๋งเดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตที่ จ.นครสวรรค์ ด้วย