บุรีรัมย์ - ปม ผอ.โรงเรียนดังบุรีรัมย์ยึดมือถือนักเรียน ม.2 ไม่ยอมคืนลุกลาม กลุ่มนักเรียนเดินหน้าชูป้ายประท้วงหน้าเสาธง จี้ให้ย้าย ผอ.ต่อเนื่อง ลั่นประท้วงจนกว่าจะมีคำสั่งย้าย พร้อมบุกร้องศึกษาธิการจังหวัดฯ ด้วย ด้าน กก.สถานศึกษาเร่งหาทางออกร่วมกับหลายฝ่ายหวั่นบานปลาย
วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักเรียนทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งที่ จ.บุรีรัมย์ ยังคงรวมตัวถือป้ายประท้วงหน้าเสาธงเพื่อเรียกร้องให้ย้ายผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนเป็นวันที่สอง หลังถูกนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ม.2.) แจ้งความดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์กรณีเอาโทรศัพท์มือถือที่เฉียบชาร์จไว้ในห้องเรียนไปโดยไม่แจ้งและไม่ยอมคืน จึงใช้แอปพลิเคชันค้นหาพิกัดพบว่าอยู่กับ ผอ. กระทั่งผ่านไป 3 วันเอามาคืนให้พนักงานสอบสวนและว่าอ้างไม่มีเจตนา
หลังจากเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) กลุ่มนักเรียนดังกล่าวไปถือป้ายประท้วงและยื่นหนังสือที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ เพื่อเรียกร้องให้ทางต้นสังกัดพิจารณาสั่งย้าย ผอ.โรงเรียน โดยอ้างว่า ผอ.ใช้อำนาจออกกฎระเบียบละเมิดสิทธิเด็กนักเรียนมากเกินไป ทั้งการห้ามนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียน ทั้งที่จำเป็นต้องใช้เป็นสื่อในการค้นหาข้อมูล ห้ามไว้ผมยาวทั้งที่กระทรวงศึกษาธิการผ่อนปรนให้ไว้ได้แค่รวบเก็บให้เรียบร้อย
ทั้งให้เวลาพักกลางวันเพียง 45 นาที ทำให้บางวันที่ครูปล่อยช้าเด็กกินข้าวไม่ทันก็ต้องเข้าเรียนต่อจนถึงเย็น แต่ไม่เคยมีกิจกรรมให้เด็กได้ผ่อนคลายบ้างทำให้เด็กเกิดความเครียด เป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่ ผอ.คนนี้ย้ายมาดำรงตำแหน่งได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ซึ่ง ผอ.คนก่อนๆ มีกฎระเบียบเหมือนกันแต่ไม่ได้เข้มงวดหรือละเมิดสิทธิเด็กมากขนาดนี้ อยากให้เห็นใจเด็กนักเรียนด้วย แต่หากไม่มีการย้าย ผอ.ออก เด็กนักเรียนก็จะรวมตัวกันประท้วงแบบนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีคำสั่งย้าย ล่าสุดนักเรียนได้พากันเดินทางไปประท้วงและยื่นหนังสือที่ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย
ขณะที่ นายฮั้ว ธีระวิทยาภรณ์ กำนันตำบลสองห้อง ในฐานะกรรมการสถานศึกษา พร้อมด้วยกรรมการสถานศึกษาคนอื่น ได้เดินทางไปที่โรงเรียนที่เด็กรวมตัวประท้วง เพื่อติดตามสถานการณ์ และสอบถามรายละเอียดว่าปัญหาเกิดจากอะไร พร้อมทั้งจะได้ไปหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ให้บานปลายไปมากกว่านี้
ส่วนเรื่องที่เด็กยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน ที่ สพม.บุรีรัมย์ จะได้ไปสอบถามข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อจะได้เร่งหาทางออกร่วมกันให้ได้ข้อยุติโดยเร็วและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็ก ครู และโรงเรียน ส่วนเรื่องที่ ผอ.โรงเรียนถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือนักเรียนชั้น ม.2 นั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนไม่ได้ไปก้าวล่วง
