xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง กก.สืบข้อเท็จจริง! ผอ.ฉกมือถือ นร. หลังผู้ปกครองพาลูกร้อง สพม.บุรีรัมย์ ขณะ นร.ฮือประท้วงจี้ย้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ผู้ปกครองพาลูกนักเรียน ม.2 ถูก ผอ.โรงเรียนดังฉกมือถือบุก สพม.บุรีรัมย์ร้องขอความเป็นธรรม ขณะ นร.รวมตัวถือป้ายประท้วงจี้ย้าย ผอ.หลังทนพฤติกรรมไม่ไหว ขณะต้นสังกัดสั่งตั้ง กก.สืบข้อเท็จจริงแล้วก่อนตั้ง กก.สอบ หากพบทำผิดจะถูกลงโทษตามวินัย ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนคดีเป็นเรื่องของตำรวจ ขณะ ผอ.ยังอ้างแค่ยึดไว้กลัวของเด็กหาย

วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้ปกครองได้พา ด.ช.เอ ลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ม.2) โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองสองห้อง ว่ามือถือที่ชาร์จเอาไว้ในห้องเรียนหายไป ก่อนจะใช้แอปพลิเคชันตรวจหาตำแหน่งจนพบว่ามือถือไปอยู่ที่ผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียน กระทั่งผ่านไป 3 วันผู้อำนวยการจึงนำมือถือมาส่งให้ตำรวจแต่อ้างว่าไม่มีเจตนาจะเอาไปแค่ยึดไว้เท่านั้น ได้บุกยื่นหนังสือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) บุรีรัมย์ เพื่อขอความเป็นธรรมและขอให้ย้าย ผอ.คู่กรณีออกจากโรงเรียนเพราะเกรงว่าลูกชายจะถูกกลั่นแกล้งและไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น


ขณะเดียวกันได้มีนักเรียนทั้งระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายที่เรียนอยู่ในโรงเรียนดังกล่าวเกือบ 50 คนรวมตัวกันเดินทางมาถือป้ายประท้วงที่หน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ พร้อมทั้งยื่นหนังสือเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน รวมจำนวน 33 ข้อ เพื่อเรียกร้องให้ทางต้นสังกัดได้พิจารณาสั่งย้าย ผอ.ออกนอกพื้นที่

โดยนักเรียนอ้างว่า ผอ.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ และละเมิดสิทธิเด็กนักเรียน เช่น การห้ามนำโทรศัพท์มือถือไปโรงเรียนทั้งที่บางวิชาต้องใช้ในการค้นหาข้อมูล ทั้งเรื่องทรงผมก็ห้ามไว้ยาวเกินติ่งหูทั้งที่กระทรวงศึกษาฯ อนุโลมให้ไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย ให้เด็กเข้าแถวฟังครูให้โอวาทหน้าเสาธงตากแดดนานเกินไปจนเด็กบางคนเป็นลมแต่ ผอ.กลับบอกว่าทำไมไม่ออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่เด็กรับไม่ได้ และอยากให้ย้าย ผอ.ออกจากโรงเรียน


ด้าน ดร.กฤษ ละมูลมอญ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ ระบุว่า ขณะนี้ทาง สพม.บุรีรัมย์ได้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหากพบว่ามีมูลจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน และหากผลสอบพบว่า ผอ.ได้กระทำผิดจริงที่ถูกร้องเรียนกล่าวหาต้องมีการลงโทษทางวินัยตามระเบียบที่กำหนดไว้ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะดำเนินการทางต้นสังกัดไม่มีสิทธิก้าวล่วง

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ผอ.โรงเรียนที่ถูกกล่าวหาได้ทำรายงานชี้แจงทางต้นสังกัดว่าสาเหตุที่หยิบเอามือถือของเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ไปในวันนั้นเพราะเห็นเด็กชาร์จทิ้งเอาไว้กลัวว่ามือถือจะหายจึงเก็บเอาไว้ให้ แต่พอวันต่อมา ผอ.มีภารกิจไปประชุมและทำกิจกรรมหลายอย่างจึงลืมแจ้งทางครูทราบ กระทั่งได้รับโทรศัพท์จากทางตำรวจว่าเด็กเจ้าของโทรศัพท์ไปแจ้งความว่ามือถือหาย จึงได้นำมือถือไปส่งให้ตำรวจแล้วแจ้งให้ทางตำรวจทราบว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมยหรือลักทรัพย์ เพียงแค่เก็บเอาไว้ให้เท่านั้น






กำลังโหลดความคิดเห็น