xs
xsm
sm
md
lg

โรงเรียนดังขอนแก่นแจงปม นร. ม.3เป็นลมเสียชีวิตไม่ใช่เพราะครูจอดรถขวางรถกู้ชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ขอนแก่นวิทย์ โรงเรียนชื่อดังกลางเมืองขอนแก่น แจงปมนักเรียน ชั้น ม.3 เป็นลมแล้วเสียชีวิต ไม่ได้เป็นเพราะครูจอดขวางรถกู้ชีพจนช่วยเหลือไม่ทัน ข้อมูลที่พากันแชร์ในโซเชียลไม่ตรงกับความจริง


จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่ากุ๊กไก่ รุ่งนภา ได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook ของกลุ่มสาธารณะ ขอนแก่นมีอะไรบอกด้วย ช่วยเหลือแบ่งปันสารประโยชน์ โดยโพสต์ข้อความว่า "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องด้วยนะคะ กรณีเด็ก นร.ชั้นม.3 โรงเรียนชื่อดังกลางเมืองขอนแก่น ที่เป็นลมในรร.แล้วไม่มีใครทำcpr รถกู้ชีพมาถึงรถครูจอดขวางเข้าไม่ได้ ตอนนี้เด็กเสียชีวิตแล้ว"

จากข้อความดังกล่าวข้างต้นทำให้มีผู้แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่นรถครูเยอะจริงๆ รถคนละคัน,แก้ไขเถอะคับ.ระเบียบในโรงเรียน คนนอกเห็น แต่ทำไรไม่ได้ ! ,โรงเรียนอย่างหรู ระบบจอดรถอย่างเห..,ความใจดำของคนบางคนทำคนอื่นเดือดร้อน ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้า และสู่สุขคตินะครับ # ครูไม่มีใครทำcprเป็นสักคนเลยเหรอ ทำไมเวลาสอนทำเก่งจังพอเจอของจริงไม่มีใครช่วย...ripนะคะ,ควยรู..คูรวย มีรภกันทุกคนจนไม่เหลือทางให้รถวิ่ง..งึดจ้าสมองระดับคู,ปล่อยเด็กคักแท้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้โพสต์รูปการ์ดงานศพ แจ้งกำหนดการฌาปนกิจศพ เด็กหญิงชุติกาญจน์ โหน่งจันดี ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมีอง จังหวัดซอนแก่น วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565เวลา 15.00 น. ประชุมเพลิง

กระแสข่าวเชิงลบต่อโรงเรียนในโซเชียลข้างต้น ล่าสุดนางลักษณ์มณี แสงสุพิน รองผู้อำนวยการโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน กลุ่มอำนวยการ ซึ่งกำกับดูแลห้องพยาบาลของโรงเรียนได้ออกมาเปิดเผยชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือเด็กมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว แต่ไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่อง หมายถึงว่าคุณแม่เด็กพูดเองว่าน้องมีอาการแบบนี้มามานานแล้ว ที่ผ่านมาตอนเรียนชั้นประถมปีที่ 6 ที่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่นก็ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายจะเป็นลมล้มพับแบบนี้เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว

พอเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ทางครอบครัวเด็กเห็นว่าน้องไม่มีอาการ คิดว่าหายแล้ว เพราะไม่มีอาการแบบนี้อีก เลยไม่ได้ให้กินยาต่อเนื่องมากมาย


นางลักษณ์มณี กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนเรื่องที่รถกู้ชีพมาถึงแต่มีรถครูจอดขวางเข้าไม่ได้ นั้น ความจริงแล้วคือ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ช่วงเปลี่ยนคาบเรียนเวลา 11.00 น. เด็กได้เป็นลมล้มลง ในตอนนั้นทั้งเพื่อน และครูประจำชั้นได้นำเด็กนักเรียนหญิงมาปฐมพยาบาล ที่ห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นของโรงเรียน ต่อจากนั้นได้มีการเรียกรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อให้มารับตัวเด็กไปรักษาต่อ เพราะตอนนั้นไม่สามารถทำ CPR ได้ เพราะต้องใช้พยาบาลผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าวทำเท่านั้น ซึ่งครูไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว




นางลักษณ์มณี ชี้แจงอีกว่าขณะที่เกิดเหตุ อาการของเด็กจำเป็นต้องทำ CPR ทางโรงเรียนจึงได้เรียกรถพยาบาล  ซึ่งใช้เวลาไม่นาน รถพยาบาลกู้ชีพของโรงพยาบาลขอนแก่นก็มาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อรถคันแรกไปถึงอุปกรณ์มี แต่ในการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีนี้คือการต้องส่งต่อทีม A เพื่อให้การช่วยเหลือมีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่ว่าเรียกคัน2มาเพราะคันแรกไม่พร้อม รถคันแรกที่ไปถึงคือBLS คันที่2คือ ALS ทีมแรกใช้เวลา3นาทีโดยประมาณ พอถึงที่เกิดเหตุเราได้ให้การช่วยเหลือทันทีโดยการทำCPR+AED+OXYRETER

และประสานทีมA ต่อมาได้มีการทำCPR จากเจ้าหน้าที่พยาบาลผู้มีความเชี่ยวชาญ จนอาการของเด็กหญิงปลอดภัย
พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายไปทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยขณะที่ทำการCPR ได้มีทั้งคุณแม่ของเด็กนักเรียนหญิง คุณครู อยู่ในเหตุการณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ต้องให้เด็กปลอดภัยก่อน จนสามารถส่งต่อเด็กนักเรียนหญิงไปที่โรงพยาบาลขอนแก่นในลำดับต่อไปได้อย่างสมบูรณ์


ต่อข้อถามที่ว่ารถกู้ชีพมาถึงแต่รถครูจอดขวางเข้าไม่ได้ นางลักษณ์มณี ตอบว่า “ไม่ใช่ เพราะว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลกำลังปั๊มหัวใจอยู่บนรถพยาบาล ดังนั้นรถกู้ชีพ ต้องจอดอยู่นิ่งๆ ในระหว่างทำ CPR รถจะวิ่งไม่ได้ แล้วคุณแม่ก็อยู่ด้วย ครูที่ปรึกษาก็อยู่ด้วยบนรถด้วยกัน ใช้เวลานานพอสมควรในการทำ CPR จนเจ้าหน้าที่พยาบาลอยู่บนรถมั่นใจ ว่าอาการของเด็กปลอดภัย ถึงเคลื่อนรถออกได้”

นางลักษณ์มณีกล่าวอีกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. หลังจากเด็กถูกส่งตัวไปถึงโรงพยาบาล และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวันกระทั่งเสียชีวิต ในเรื่องนี้คุณแม่เด็กก็รับรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งทางเพื่อนนักเรียน คณะครู และผู้บริหารของโรงเรียน มิได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าในการรักษามาโดยตลอด เมื่อน้องจากไปอย่างนี้ทางโรงเรียนก็เสียใจเป็นอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น