xs
xsm
sm
md
lg

หลวงพ่อสายโหด! ไม้ตะพดฟาดหัวโยมเลือดสาดเย็บ 7 เข็ม กะโหลกร้าว เหตุคุยกันเสียงดัง ญาติโร่แจ้งความ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุรินทร์ - หลวงพ่ออ้วนสำนักสงฆ์ดังเมืองช้างสายโหด ใช้ไม้ตะพดยาว 1 เมตรฟาดหัวโยมเลือดสาดเย็บ 7 เข็ม กะโหลกร้าว เหตุไปรอทำบุญแต่คุยกันเสียงดัง หลวงพ่อห้ามไม่หยุด เปิดฉากด่าหยาบคายถึงบุพการี ก่อนตีไหล่และฟาดหัวสุดแรง ญาติโร่แจ้งความโดนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.บี (นามสมมติ) ว่า มีพระรูปหนึ่งชื่อหลวงพ่ออ้วน อยู่ที่สำนักสงฆ์ บ้านกันจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อารมณ์ร้อนใช้ไม้ตะพดฟาดศีรษะ นายเสมอ สายดวง อายุ 59 ปี ปู่ของ น.ส.บี (นามสมมติ) อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 13 ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมกับเปิดคลิปวิดีโอที่ น.ส.บี (นามสมมติ) ถ่ายไว้ได้ ซึ่ง นายเสมอ สายดวง ปู่ของ น.ส.บี (นามสมมติ) ถูกตีด้วยไม้ตะพดความยาวกว่า 1 เมตร เกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2565 เวลา 12.00 น. ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเลือดไหลไม่หยุดเป็นแผลยาวต้องเย็บถึง 7 เข็ม เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ 2 วัน โดยมีญาติเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งหลวงพ่อในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส


นางสาวบี (นามสมมติ) หลานสะใภ้ของนายเสมอ เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2565 ช่วงเวลา 11.00 น. ตนและครอบครัวทั้ง 6 คนได้เดินทางไปที่ สำนักสงฆ์หลวงตาอ้วน เพื่อจะไปทำบุญถวายสังฆทาน ตน และครอบครัวได้พากันนั่งรออยู่ด้านหน้าและได้พูดคุยกันในระหว่างครอบครัว และได้มีญาติโยมอีกชุดหนึ่งมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เช่นกัน และทางญาติโยมอีกชุดหนึ่งได้พูดคุยกับตนและปู่ของตนว่าจะเดินทางมาดูดวงกับหลวงตาอ้วน และได้บอกกับตนว่าขอเข้าดูดวงก่อนได้ไหมเพราะเดินทางมาไกล ตนและปู่จึงบอกว่าให้แซงคิวก่อนเลยเพราะบ้านตนอยู่ไม่ไกล


จากนั้นตนและครอบครัวก็นั่งคุยกันตามปกติ จนสังเกตเห็นหลวงตาอ้วนเดินออกมามองอยู่ที่หน้าประตู และได้ใช้ไม้เท้าขนาดใหญ่ หรือไม้ตะพด เคาะลงที่พื้น 2-3 ครั้งอย่างแรงจนเสียงดัง และสักพักหลวงตาอ้วนก็ได้เดินลงมาพร้อมทั้งพูดภาษาเขมรแปลได้ว่า เป็นคำหยาบคายและด่าทอว่านายเสมอซึ่งเป็นปู่ของตน ด่าถึงบุพการีอย่างเสียๆ หายๆ และบอกว่าถ้ายังไม่กลับจะเอาปืนมายิง

ตนก็แปลกใจแต่ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นสังเกตเห็นหลวงตาอ้วนเดินพุ่งตรงมาที่ปู่ของตน ตนเห็นดังนั้นจึงแอบถ่ายคลิปไว้อย่างที่เห็นในภาพและไม่คิดว่าหลวงตาอ้วนจะใช้ไม้ตะพดตีลงที่ไหล่ด้านซ้ายของปู่ของตนเป็นจำนวน 2 ครั้ง และเดินออกไปจากนั้นเดินกลับเข้ามาอีกและได้ใช้ไม้ตะพดฟาดลงที่ศีรษะของปู่ตนอย่างแรง จากนั้นทุกคนตกตะลึงและเข้ามาดูปู่ของตนจึงได้เห็นว่าที่ศีรษะของปู่นั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างมาก ตนจึงบอกให้ทุกคนกลับบ้านเพื่อพาปู่ไปรักษา


เมื่อมาถึงบ้านตนโทร.แจ้ง 1669 ให้มารับตัวปู่ของตนไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเห็นว่าปู่นั้นเริ่มมีอาการหมดสติตัวซีดเพราะมีเลือดออกมาเป็นจำนวนมากก็นั่งรอรถพยาบาลมารับไป ปู่ก็เริ่มจะไม่พูดจาแล้วเพราะไม่ค่อยมีสติ จากนั้นเมื่อรถพยาบาลมาถึงก็รีบนำตัวปู่ส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ จากนั้นตนและญาติๆ ได้เดินทางไปยัง สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อหลวงตาอ้วน

“โดยส่วนตัวนั้นไม่เคยรู้จักหลวงตาอ้วนไม่เคยพบหน้ากันและมาทำบุญที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรหลวงตาอ้วนถึงทำร้ายปู่เช่นนี้” หลานสาวคนบาดเจ็บกล่าว


ด้าน นายเสมอ สายดวง ผู้ได้รับบาดเจ็บ อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ 13 ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ไม่รู้จักกับหลวงตาอ้วนเลย และไปทำบุญที่สำนักสงฆ์ที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น วันนั้นจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์เพราะทางญาติๆ ได้ชวนไป พอไปถึงตนก็นั่งคุยเล่นกันกับครอบครัวอีก 5 คน เพราะมีคิวอยู่แล้ว 1 คิว จากนั้นได้เห็นหลวงตาอ้วนเดินลงมา และได้พูดจาด่าทอตนเป็นภาษาเขมร ว่ากูมองมึงมานานแล้ว กูไม่ชอบหน้ามึงไม่ถูกชะตามึง พร้อมทั้งด่าทอพ่อแม่ของตนอย่างเสียๆ หายๆ ตนนั้นแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลวงตาอ้วนถึงมาด่าทอตน ก็ได้แต่พนมมือยกไหว้ จากนั้นหลวงตาอ้วนได้ใช้ไม้เท้าหรือไม้ตะพดฟาดลงที่ไหล่ซ้ายของตน 2 ทีแต่ไม่แรงนัก ตนมองดูหลวงตาอ้วนมีแววตาขึงขังจ้องเขม็งมาที่ตนอย่างน่ากลัวแต่ไม่รู้ว่าเมาหรือไม่


จากนั้นหลวงตาอ้วนเดินออกไปและหันกลับมาใช้ไม้เท้าไม้ตะพดขนาดใหญ่ฟาดลงที่ศีรษะตนอย่างแรง ตอนนั้นตนรู้สึกมึนและเจ็บปวดที่ศีรษะมาก เอามือกุมที่โดนฟาดจึงรู้ว่ามีเลือดไหลออกมาจำนวนมากนองเต็มพื้น ส่วนหลานๆ ได้เอาผ้ามาซับเลือด ตอนนั้นก็ตกใจและพากันกลับมาบ้าน หลังจากนั้นตนไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์แล้ว

“ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อยู่ 2 คืน 3 วัน เย็บแผล 7 เข็ม กะโหลกร้าว แต่ไม่มีเลือดออกในสมอง ปัจจุบันยังมีอาการเวียนและปวดศีรษะอยู่ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมหลวงตาอ้วนถึงได้ทำกับผมเช่นนี้ แล้วต่อไปใครจะไปกราบไหว้ให้ความศรัทธา เพราะหากหลวงตาอ้วนไม่ถูกชะตากับใครอาจทำแบบนี้อีกก็ได้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากมีอาการป่วยก็ควรไปรักษา” นายเสมอกล่าว


ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำนักสงฆ์หลวงตาอ้วนซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบเจ้าคณะตำบลทุ่งมนกำลังสอบข้อเท็จจริงกับหลวงตาอ้วนและไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามกับทางลูกศิษย์ ชื่อ นางสาวอรสา จงพูลศรี อายุ 32 ปี (เสื้อสีดำคาดชมพู) ที่เป็นลูกศิษย์อยู่ประจำสำนักสงฆ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางคนมาทำบุญกันมาก พวกเขาก็มากัน 6 คน ผู้ชาย 2 คนเขาก็มาตะโกน โดยลงรถปุ๊บตะโกน 60 91 แล้วเดินไปที่กุฏิ แล้วผู้หญิงก็นั่งฝั่งนี้ 3 คน ผู้ชาย 2 คน นั่งฝั่งโน้นนั่งคุยกันไม่รู้เขาคุยอะไรเสียงดังมากหลวงตาได้เตือนแล้ว 2 รอบ อย่าเสียงดังเพราะตอนนี้หลวงตาใช้สมาธิอยู่ ก็ไม่ฟังก็พูดอีกอย่างเสียงดัง รอบที่ 3 หลวงตาไม่เตือนแล้วถือไม้มาเลย ฟาดจนศีรษะแตกเลย แล้วผู้หญิงคนนั้นไม่รู้มาจากไหนก็มาถ่ายคลิป


สำหรับสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นสถานที่พักสงฆ์ บ้านกันทจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีพระรูปเดียวคือหลวงพ่ออ้วน จะมีญาติโยมคอยมาถวายอาหารให้ช่วงเวลาเพลเท่านั้น ทั้งนี้จับใจความในคลิปสั้นๆ ซึ่งเป็นภาษาเขมรท้องถิ่นสุรินทร์ได้ว่า “หลวงพ่อพูด-ไอ้หา หรือไอ้เขายิง เดี๋ยวฆ่าตายเลย พูดเกินไป กลับบ้านไป อีกคนตอบว่า-ไม่ไปหรอก จากนั้นฟังไม่ชัดคล้ายผู้ชายตำหนิเรื่องเมาสุรา ก่อนที่หลวงพ่อทนไม่ได้วิ่งปรี่ไปตีศีรษะแตกดังกล่าว

ผู้บาดเจ็บ



หลวงพ่อ ผู้ก่อเหตุ



ลูกศิษย์


กำลังโหลดความคิดเห็น