อุดรธานี - นักเรียนชั้น ป.6 อ้างครูปกครองตบจนหัวคะมำ ช็อกหมดสติ แถมสั่งไม่ต้องพาไปโรงพยาบาล เผยเหตุแค่จะเดินไปซื้อน้ำดื่มนอกโรงเรียนครูเดินประจันหน้า ขณะที่ครูงัดหลักฐานกล้องวงจรปิดสู้ ไม่ได้ตบแค่ขู่และง้างมือ วอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสิน
ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองของ ด.ญ.เนย (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ นักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยปลาโดศรีสามารถ ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่า ถูกครูผู้ชายฝ่ายปกครองทำเกินกว่าเหตุใช้ฝ่ามือตบเด็กนักเรียนบริเวณบ้องหูจนนักเรียนช็อกหมดสติ และขู่ห้ามพาไปโรงพยาบาล ก่อนจะนำเด็กหญิงคนดังกล่าวกลับมาส่งให้ผู้ปกครองที่บ้าน เหตุเกิดเวลาบ่าย 2 ของวันศุกร์ที่ 17 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับนางพิกุล ศรีโยธี อายุ 49 ปี ยายน้องเนย เปิดเผยว่า วันศุกร์ที่ผ่านมามีเพื่อนนักเรียนพาหลานสาวมาส่งที่บ้าน ตนจึงสอบถาม น้องเนยเล่าว่าถูกครูฝ่ายปกครองที่โรงเรียนใช้ฝ่ามือตบ จากนั้นก็สลบและครูห้ามพาน้องเนยไปส่งโรงพยาบาลเพราะคิดว่าหลานสาวตนเองสำออย และพามาส่งที่บ้านแทน ตนสอบถามหลานสาวเล่าให้ฟังว่า ถูกครูใช้ฝ่ามือตบบริเวณบ้องหู สาเหตุครูคิดว่าหลานสาวตนเองจะเดินไปซื้อน้ำที่ร้านค้านอกโรงเรียน
“ฉันเสียใจมาก หากครูทำแบบนี้จริง อยากให้ครูมาพูดมาจากับพวกฉันบ้าง หลังเกิดเหตุก็บอกว่าไม่ได้ทำอย่างเดียว เป็นถึงครูทำไมถึงทำแบบนี้ ตอนนี้ได้ไปแจ้งความแล้ว และจะขอให้ตำรวจมาเปิดกล้องวงจรปิดให้เห็นหลักฐานชัดๆ ว่าครูคนดังกล่าวตบหลานฉันจริงตามที่หลานกล่าวอ้างหรือไม่” ยายน้องเนยกล่าว และบอกอีกว่า
ตนไม่อยากเอาเรื่องกับครูคนนี้ แต่อยากให้เขามาพูดคุยบ้าง ไม่ใช่จะบอกว่าไม่คุยไม่พูดอย่างเดียว ฉันเสียใจมากที่ครูบอกว่าไม่ขอคุยอย่างเดียว พูดไปนางพิกุลปาดน้ำตาไป
ส่วน ด.ญ.เนยบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงพักเบรก บริเวณโรงอาหาร ตนจะเดินไปซื้อน้ำที่ร้านค้านอกโรงเรียน เจอครูผู้ชายคนนี้ยืนประจันหน้า ถามว่ามึงจะไปไหน พร้อมง้างมือตบที่บริเวณบ้องหูด้านขวาไป 1 ครั้ง แล้วไล่ตนห้ามออกไป ตนก็เดินจะไปห้องเรียนสักพัก หนูหายใจไม่อิ่ม และหายใจไม่ออก ช็อกหมดสติ มีเพื่อนๆ มาช่วยปฐมพยาบาล และครูอีกคนบอกว่าจะพาไปส่ง รพ. แต่ครูผู้ชายคนนี้บอกเพื่อนครูว่าห้ามไปส่งเพราะมันสำออย จากนั้นเพื่อนๆ ก็พามาส่งที่บ้าน หนูคิดว่าครูทำเกินกว่าเหตุ ไม่กล้าไปโรงเรียนอีกแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับครูผู้ชายท่านนี้ ครูสุรจิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี บอกกับนักข่าวว่า ขอไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว แต่ตนเองยืนยันไม่ได้ทำร้ายเด็กนักเรียนแต่อย่างใด พร้อมนำภาพวงจรปิดมาเปิดให้ดู ยืนยันอย่างชัดเจนว่าตนเองไม่ได้ตบเด็กนักเรียนคนนี้แน่นอน
แค่ทำท่าง้างมือตบเท่านั้น แต่ไม่ได้ตบ จากนั้นใช้คำพูดไล่ให้นักเรียนเข้าห้องเรียนไปเท่านั้นยอมรับตนเองเป็นคนพูดเสียงดัง เด็กนักเรียนในโรงเรียนอาจจะกลัวบ้าง "ผมขอเอาเกียรติครูที่ทำงานมาจนจะเกษียณปกป้องสิทธิของตนเอง และวอนสังคมอย่าเพิ่งตัดสินว่าครูผิด และยืนยันหลักฐานด้วยกล้องวงจรปิดไม่ได้ตบหรือทำร้ายนักเรียนแต่อย่างใด"
ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยังนายประสิทธิ์ ไชยวงษ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 3 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นพอทราบเรื่องแล้ว ในวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย.คือวันนี้ ตนจะเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อตรวจสอบเรื่องที่ผู้ปกครองร้องเรียนว่ามีครูทำร้ายนักเรียนและจะได้เรียกครูและผู้ปกครองมาพูดคุยกัน และพร้อมจะเปิดกล้องวงจรปิดให้ผู้ปกครองได้เห็นเพื่อความสบายใจ ยืนยันไม่ปกป้องใคร หากทำผิดก็พร้อมลงโทษ แต่หากครูไม่ได้ทำผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ครูท่านนี้ด้วย
