ศรีสะเกษ - เปิดใจ “บุญถาวร” ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย “ส.ส.เต้” ประกาศปกป้อง “บังแจ็ค” ฐานะมีหน้าที่พิสูจน์ความเป็นมาของการเสียชีวิต “น้องแตงโม” เรื่องผ้า เลือด โทรศัพท์ เหตุมีความเชี่ยวชาญอยู่ต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศผลิตไอโฟน ย้ำคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งทนายดัง พิธีกร ปชช.ไม่ควรมายุ่งกับ “คุณแม๊” เชื่อคดี“น้องแตงโม”เป็นฆาตกรรมถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามกม.อาญา ม. 290 ยัน “ส.ส.เต้” มีเจตนาดีแค่เตือนทนายดังไม่ได้ข่มขู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักส่วนตัว อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ “ส.ส.เต้” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” ดาราสาวชื่อดังที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ว่า ต้องเข้าใจว่าในปัจจุบันนั้นมีกฎหมายออกมาบังคับเรื่องของสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลในการที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าใครดีไม่ดีทำถูกไม่ถูก การเสียชีวิตของน้องแตงโมถือว่าเป็นประเด็นสำคัญของประเทศไทย มีการคาดการณ์มากมาย คุณแม่ของแตงโม (นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน) ครั้งแรกก็รู้อยู่ว่าเขาเชื่อตำรวจเชื่อทนายในกรณีที่ระบุว่าเกิดจากอุบัติเหตุและความประมาทของคนในเรือคุณแม่ก็เชื่อคุณแม่ก็น้อมรับ
ต่อมาคุณแม่บอกว่ามันมีเหตุสงสัยมีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่น่าเชื่อ คุณแม่ก็บอกว่าต้องหาพยานหลักฐานมาหักล้างเขาก็ได้เจอกับ ส.ส.เต้ นายมงคลกิตติ์ เจอกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็มีหลักฐานมากมายเพียงพอฟังได้ว่าเป็นฆาตกรรม ฆาตกรรมคืออะไร ฆาตกรรมคือการฆ่าโดยเจตนาหรือไม่มีเจตนาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายก็เป็นฆาตกรรม คนก็ออกมาด่าคุณแม่ จากที่แกเคยบอกว่าน้อมรับการที่ตำรวจพิจารณาหลักฐาน ในวันนี้ต้องออกมาเรียกร้องหาความจริงให้กับแตงโม ก็ถูกด่าอีก
ถามว่าสังคมจะเอาอะไรกับคุณแม่กันแน่ ตนก็ต้องออกมาปกป้องว่า ให้คุณแม่ของน้องแตงโมทำให้ถึงที่สุดก่อน จะออกมาอย่างไร จะเป็นประมาท จะเป็นกลยุทธ์ทำให้ตายหรือเจตนาฆ่าหรือไม่เจตนาฆ่ามันยังไม่มีข้อยุติ อยากให้เข้าใจคุณแม่ในความเป็นแม่ คนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทนายดัง พิธีกร ประชาชนทั่วไป ไม่ควรที่จะมายุ่งกับคุณแม่
ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาดูแลเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคุณแม่ก็จะต้องปกป้องคุณแม่อย่างเต็มที่ ใครมาหิวแสงด่าคุณแม่ ทำให้คุณแม่เสียหายตนก็จะต้องดำเนินคดีจนถึงที่สุดโดยให้ฝ่ายทีมกฎหมายของคุณแม่เป็นคนฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป
นายบุญถาวรกล่าวต่อว่า กรณีที่มีคนมาด่า “บังแจ็ค” ทั้งที่บังแจ็คเป็นคนช่วยหาหลักฐานนั้นตนเห็นว่าบังแจ็คไม่ใช่คนไทย เขาเป็นคนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยและอยู่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและได้เข้ามาสร้างวีรกรรมที่อาจจะผิดพลาดกับพิธีกรและเรื่องต่างๆ หลายอย่างแต่ยังไม่มีถึงที่สุดว่า บังแจ็ค เป็นคนกระทำความผิด บังแจ็คทำผิดเรื่องเดียวคืออยู่ในเมืองไทยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และการที่ออกมาด่าบังแจ็คนั้น เขามีหน้าที่พิสูจน์ถึงความเป็นมาของการเสียชีวิตของน้องแตงโม เรื่องผ้า เลือด เรื่องโทรศัพท์เขาก็มีสิทธิ์ในเมื่อเขามีความเชี่ยวชาญอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ไอโฟน เขาก็รับอาสาในการตรวจสอบ
ตนคุยกับบังแจ็คทางไลน์แทบทุกวัน ตนได้บอกน้องเขาว่า โทรศัพท์มีหลักฐานอะไรถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอื่นซึ่งไม่ใช่เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของน้องแตงโมอย่าเอามาเปิดเผยนะ เขาก็โอเค เขาด่านายทั่วโลก นายมีหน้าที่กลับตัวกลับใจให้เป็นคนดีของชาวโลก ตนได้เตือนบังแจ็คตลอด บังแจ๊คก็ได้หยุดตามที่ตนได้บอกกล่าวไป ทำไมไม่ให้โอกาสกัน เมื่อเขาเคยทำผิดเคยมีข้อพิพาทกับใครเขาก็ต้องเป็นคนเลวใช่ไหม ทำไมไม่ให้โอกาสเขา ตอนนี้มีการส่งผ้ามาแล้วคุณหมอพรทิพย์รับผ้าก็ส่งตรวจสอบผ้าดังกล่าวนั้นว่า มีคราบเลือดหรือไม่ มันก็นำไปสู่การที่จะทำให้คดีพลิกผันได้
ตนไม่เห็นด้วยกับคนที่ด่าคนที่ทำคดีให้แตงโมให้เกิดความโปร่งใสในการตาย แต่หากบังแจ็คไปแบล็กเมล์ข่มขู่คนอื่น บังแจ็คสมควรถูกด่า ตนเป็นคนแรกที่จะเป็นคนด่าบังแจ็ค ถ้าอยู่ใกล้ก็จะจัดการเลย
นายบุญถาวรกล่าวต่อว่า กรณีที่ตนได้ด่าแฟนเก่าของแตงโมที่ไม่ช่วยคดีแต่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นั้น ตนเห็นว่าคุณเคยรัก เคยคบกันรักใคร่กัน คุณแตงโมเขาตายไปแล้วอะไรก็ตามที่ทำให้คุณแตงโมได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นกรณีเกิดจากการกระทำที่บุคคลในเรือเพราะความประมาทพลาดพลั้งหรือเป็นกรณีที่ทำให้ถึงแก่ความตายด้วยประการใดๆ ที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน คุณแม่ของคุณแตงโมได้ดิ้นรนขวนขวาย ส่งมือถือไปให้บังแจ็คเพื่อตรวจสอบ คุณไม่เห็นด้วยก็ไม่ควรที่จะออกมาต่อว่าคุณแม่ควรที่จะให้กำลังใจคุณแม่ ไม่ใช่ไปบอกว่าหนีเสือปะจระเข้มันไม่ถูก ถ้าหากไม่ช่วยก็ควรอยู่เงียบๆ
ถามว่าคุณแม่ก็ลำบากเงินค่าเดินทางค่าอาหารค่าใช้จ่ายไม่มี คุณแม่ไม่ได้รับเงินเยียวยาจากใครเลย ในทุกวันนี้เดินทางไปไหนก็มีแต่คนนั้นคนนี้ให้ จากเอฟซีแฟนคลับ ส่วนมากแล้วน้อง ส.ส.เต้ เป็นคนดูแล ถามว่าคุณเคยรักน้องแตงโม เป็นแฟนน้องแตงโมตั้งหลายคนมีความสงสารคุณแม่หรือไม่ หากสงสารเอาตังค์มาให้คุณแม่หน่อยวันนี้คนละ 1,000-2,000 บาท ช่วยดูแลคุณแม่ค่าใช้จ่ายนั่นนี่จะไม่ดีกว่าหรือ อย่าไปพูดเลยครับว่าหนีเสือปะจระเข้ อย่าพูดให้คนอื่นด้อยค่า
ตนขอบอกเลยว่าคุณเป็นดารานักร้องนักแสดงหรือมีเงินมากมาย 100 ล้าน 1,000 ล้านบาท คุณมี 1,000,000,000 บาท วันนี้ขอสักล้านบาทหน่อยได้ไหม เอามาให้คุณแม่ตั้งเป็นกองทุนวันนี้ยังมีประเด็นเลยว่า ทนายดังสำรองจ่ายค่าอาหารให้คุณแม่ 23,000 บาท ทนายดังก็มาทวงถามค่าอาหาร ผ่านสื่อมวลชนผ่านทางออนไลน์ คุณแม่ก็เสียหายแกอาจจะไม่มีเงิน ลองคิดดูดีๆ หากคุณรักแก รักแตงโมก็ให้เอาเงินมาหนึ่งล้านบาทบริจาคให้แม่ไปเลยให้ฟรี ตนขอท้าที่คุณออกมาหิวแสงหรือเปล่า หรือว่าต้องการสร้างประเด็นถ้าอยู่ดีๆ ปากเงียบๆ ดีกว่าเก็บปากไว้กินข้าวเข้าใจชัดเจนนะครับ
นายบุญถาวรกล่าวอีกว่า กรณีเรื่องแตงโมนี้ตนได้ให้ความเห็นไปแล้วว่า ตนบอกว่าการที่จะพิสูจน์ว่าเป็นการตายแบบไหนมันต้องดูจากคนที่เป็นประจักษ์พยานคือคนที่อยู่ในเรือ 5 คนว่าให้การว่าอย่างไร เราต้องเชื่อเขาก่อน เขาให้การว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ตกท้ายเรือตกจากเรือเพราะอาการเมา เราก็ต้องเชื่อเขาก่อนถ้าหากเราไม่เชื่อก็ต้องหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์นั่นคือเมื่อคนตายพูดไม่ได้เราก็ต้องดูจากศพ ศพจะบอกว่าการตายของน้องแตงโมเกิดจากการกระทำโดยเจตนาหรือประมาท ต้องดูจากตรวจศพ ศพมีบาดแผลหรือไม่ ถ้ามีบาดแผล แน่นอนอาวุธที่ใช้อวัยวะ บาดแผลมีลักษณะอย่างไรและพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
ตรงนี้ตนไม่เชื่อว่าคุณแตงโมจะไปฉี่ท้ายเรือ ตกเรือเป็นไปไม่ได้ เมื่อไม่เชื่อแล้วเราก็ต้องวนมาดูเรื่องบาดแผลว่าบาดแผลเกิดจากอะไรจากใบพัดเรือหรือไม่ เมื่อเราไม่เชื่อว่าตกท้ายเรือแล้วจะดูดเข้าไปท้ายเรือแล้วถูกใบพัดเรือทำให้เกิดบาดแผลมันก็ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นเราจะต้องเริ่มต้นจากที่เป็นบาดแผลว่าแผลเกิดจากของมีคมหรือว่าอะไร ใครทำให้เกิดบาดแผล
ส่วนตนนั้นเห็นว่าเรื่องนี้มีแรงจูงใจเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการฆาตกรรม เพราะฆาตกรรมมี 2 ลักษณะ หนึ่งโดยเจตนาฆ่าหรือไม่มีเจตนาฆ่า จะทำร้ายเพื่อให้ถึงแก่ความตายก็ถือว่าเป็นฆาตกรรม แต่หลักๆ ตนให้ความเห็นว่าเรื่องของน้องแตงโม น่าจะเป็นกรณีถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ซึ่งเป็นความเห็นตามที่ท่านอดีตผู้พิพากษาท่านหนึ่ง ซึ่งออกรายการโหนกระแสในวันนี้ ก็ได้ให้ความเห็นเช่นเดียวกันกับตน
นายบุญถาวรกล่าวด้วยว่า กรณี ส.ส.เต้ถูกกล่าวหาว่าขู่ทนายดังคนหนึ่งนั้น ต้องถามว่าขู่จริงหรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับการเตือน ก่อนที่จะมีการพูดถึงว่าให้หยุดนั้นก่อนหน้านี้ทนายคนดังกล่าวนั้นก็เคยข่มขู่ ส.ส.เต้ ว่าเดี๋ยวอีก 3 วันจะมีตำรวจมาจับ เดี๋ยวอีก 5 วันจะมีหมายจับ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่ามายุ่งเรื่องนั่นนี่ มีการโทร.ไปข่มขู่ ส.ส.เต้หลายสิบครั้ง เมื่อคุณถอนตัวออกจากการเป็นทนายความแล้ว เพราะคุณแม่ได้มอบหมายให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ให้พี่อัจฉริยะและให้ตนมาช่วยดูแลในส่วนของภาพรวม ก็ยังมาพูดกระแนะกระแหนกัน แม้กระทั่งในวันที่ถอนตัวนี้ยังพูดเสียดสีส่อเสียดคุณแม่ในลักษณะว่ามารดาโน่นนั่นนี่ คือทำให้คุณแม่กังวลบอกว่าถ้าฟ้องไปก็จะโดนฟ้อง
ทำให้ ส.ส.เต้ อดทนไม่ไหวคือถูกหยามศักดิ์ศรี ประเด็นหลักหนักๆ เลยคือ ถูกกล่าวหาเป็นคณะตลกอีก 3 วัน 5 วัน คงเลิกกันแล้ว มันดูเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ส.ส.เต้ เขาโทร.ไปก็เพื่อบอกว่าเตือนนะ ถ้าเป็นคนอื่นเขาส่งคนมากระทืบก็ต้องเข้าใจว่าเขาเป็นนักการเมืองถามว่าไม่มีแฟนคลับหรือว่าไม่มีผู้ให้การสนับสนุนก็คงไม่ได้เป็น ส.ส. ออกไปทำเรื่องนี้มีแต่เสียเงินไม่ได้โดนชาวบ้านด่าหาว่าหิวแสงจริงๆ เราต้องการให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความโปร่งใสในการรับฟังปัญหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ในกรณีการเสียชีวิตของน้องแตงโมฟังอย่างรอบด้านไม่ใช่ฟังฝ่ายเดียวแล้วมาตัดสินเลย ตนมั่นใจว่า ส.ส.เต้ มีเจตนาดี ในการที่ไปบอกทนายดังว่าถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะถูกดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของกฎหมาย แต่ตนมั่นใจว่ามันไม่ใช่การขู่เอาชีวิต เป็นเพียงแค่การเตือน หากฟังดีๆ ก็จะเห็นว่า หากเป็นคนอื่นผมจะส่งคนไปกระทืบนะ นี่แสดงว่าเขารู้จักกันดูจากถ้อยคำประมาณนี้