xs
xsm
sm
md
lg

“ชาวศาลาหลวง ลำปาง” สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ โวยเงินฝากหาย-ชื่อโผล่เป็นหนี้ซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ทั้งฉาวทั้งเดือดร้อนกันทั่ว..ชาวศาลาหลวง เกาะคา เมืองรถม้า ลำปาง-สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ โวยฝากเงินเดือนละ 100-200 ทุกเดือนหลายสิบปีไม่เคยขาด หวังใช้ในบั้นปลายชีวิต สุดท้ายพบเงินฝากหลักหมื่น-หลักแสน หายเหลือหลักพัน แถมไม่พอบางรายชื่อโผล่เป็นหนี้เฉยทั้งที่ไม่เคยกู้


ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “จีเอ็มเอ็ม ชอร์ป” ได้เขียนข้อความลงในสื่อออนไลน์กลุ่มสาธารณะของจังหวัดลำปางว่า “กับสหกรณ์เครดิตแห่งหนึ่งในตำบลศาลา แม่ผมฝากเงินมาตลอด เดือนละ 100-200 บาท ทุกเดือนหลายสิบปีไม่ขาด ในบัญชีเงินฝากมีเงินอยู่ 4x,xxx บาท วันนี้ได้ยินข่าวไม่ชอบมาพากล มี จนท.จากจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ แม่ผมเลยไปตรวจด้วยเนื่องจาก 3 เดือน ที่ผ่านมาต้องการถอนออกแต่ไม่ได้สักที แจ้งว่าต้องรอ จนท.จากจังหวัดมาตรวจสอบ

ปรากฏว่า..จากเรามีเงินฝาก กลายว่าเราเป็นหนี้ กู้มาตั้งแต่ปี 58 เราจะกู้มาทำไม กู้ยังไง เรามีแต่ฝากเพื่อออมไว้ให้ลูกหลานในอนาคต อีกก้อนหนึ่งเป็นเงินฝากกลุ่มน้ำพริกที่ทำร่วม มีเงิน 15,xxx บาท กลายเป็นเหลือ 1,2xx บาท เงินส่วนนี้หายไปไหนครับ สหกรณ์มีระบบการตรวจสอบทุกปีๆ หรือครึ่งปีไม่ใช่เหรอครับ เกิดอะไรขึ้นครับ มีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างครับ ตอนนี้ทำยังไงกันบ้างครับ ทำงานมาไม่เคยให้คนที่บ้านกู้เงินเลย แต่กลายเป็นหนี้?..”

หลังมีการเผยแพร่ข้อความดังกล่าว ได้มีสมาชิกสหกรณ์ฯ หลายรายได้เขียนคอมเมนต์สนับสนุน บางรายระบุว่า..แม้แต่เงินวัดก็ยังหาย บางคนก็บอกว่าเงินของคนในครอบครัวก็หายเช่นกัน

ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายจำนงค์ ชัยมาเชื้อ ผู้ใหญ่บ้านศาลาหลวง ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางได้มาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีการนัดหมายสมาชิกทั้งหมดมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและรับฟังการตรวจสอบพร้อมกันในวันที่ 26 พ.ค. 65 นี้

สำหรับตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านฯ เป็นผู้ดูแลเงินของวัดร่วมกับเจ้าอาวาสและไวยาวัจกร เงินวัดซึ่งเป็นเงินบริจาคทั้งสิ้น มีทั้งสิ้น 5 บัญชี รวมยอดเกือบ 400,000 บาท ขณะนี้จากการตรวจสอบทั้ง 5 บัญชี มีเงินเหลือไม่ถึง 40,000 บาท เบื้องต้นพบว่าเงินหายจากบัญชีในปี 2558 แต่เรื่องมาแดงตอนที่วัดจะทำประตู ตนจะขอเบิกเงิน 100,000 บาทแล้วเบิกไม่ได้ กรรมการฯบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ต่อมาก็มีสมาชิกไปขอเบิกเงินก็ไม่ได้เงิน โดยกรรมการบอกว่า..ขาดสภาพคล่อง

นอกจากนี้ กองทุนเงินล้าน ที่มีเงินฝากอยู่ 1,200,000 บาท ขณะนี้พบว่ามีเงินในบัญชีเพียง 6,000 กว่าบาทเท่านั้น และกองทุนอื่นๆ ที่นำเงินไปฝากไว้ก็หายเช่นกัน จนมีการร้องไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ฯ ให้มาตรวจสอบ

“เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ เพราะสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจะนำมาฝากในลักษณะเงินออมเพียงอย่างเดียว ซึ่งแต่ละคนจะมีเงินฝาก 3-4 หมื่นบาทเกือบทุกคน แต่ถูกถอนไปใช้หมดโดยเจ้าตัวไม่เคยถอนเลย และไม่ได้สังเกตหรือมีพิรุธ เพราะสมุดเงินฝากที่อยู่กับตัวสมาชิกมีเพียงตัวเลขและลายเซ็นคนรับเงินเท่านั้น จึงเชื่อว่าต้องเป็นคนในเพราะคนนอกคงไม่มีใครเอาไปได้และคงทำเป็นทีม จนทำให้สมาชิกคิดว่าเงินยังอยู่ครบ ซึ่งหลังจากเรื่องแดงก็มีการโทร.สอบถามกัน ตนก็ได้ให้สมาชิกแต่ละคนนำสมุดบัญชีไปเช็กด้วยตัวเองและให้มาตรวจสอบพร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้”


ขณะที่ยายอรุณ วังตา อายุ 85 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง ปัจจุบันเป็นเพียงสมาชิกเท่านั้น ยอมรับว่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น กลัวสหกรณ์ฯ จะล้ม เพราะเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก็คงขาดความน่าเชื่อถือ คงไม่มีคนเอาเงินมาฝากอีก

ยายอรุณเล่าย้อนให้ฟังถึงการก่อตั้งสหกรณ์ฯ ว่าต้องการช่วยเหลือคน ต้องการให้เป็นที่ออมเงิน-เบิกเงินได้ง่าย ชาวบ้านไม่ต้องเดินทางไกล โดยตนได้เริ่มรวมกลุ่มในปี 2534 พร้อมชักชวนคน-กลุ่มต่างๆ มาร่วม จนกระทั่งปลายปีก็สามารถตั้งเป็นสหกณณ์ฯ ได้ จากนั้นจึงชักชวนให้กลุ่มต่างๆ ทั้งในหมู่บ้าน ตำบล และในอำเภอ นำเงินมาฝากที่นี่ ก็ได้รับการยอมรับ และที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งวันนี้ทราบข่าวก็ตกใจเครียดมาก

นางดวงใจ รัตนธัญญา ลูกสาวคุณยายอรุณ เล่าว่า รับทราบข่าวว่าสมาชิกถอนเงินไม่ได้มาระยะหนึ่งแล้ว แม่ก็เคยเข้าไปสอบถามและบอกให้ดำเนินการให้ดี กระทั่งล่าสุดมีสมาชิกแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และเมื่อนำสมุดเงินฝากของแม่ทั้ง 2 เล่ม ที่มียอด 275,000 และ 40,000 กว่าบาท ไปตรวจสอบปรากฏว่ายังอยู่ครบ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ชื่อของแม่กลายเป็นผู้กู้เงินสหกรณ์ฯ 180,000 กว่าบาท ซึ่งแม่ไม่ได้กู้ ได้สอบถาม เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าสหกรณ์ฯ ขาดสภาพคล่อง ก็ได้ถามกลับไปว่าเมื่อขาดสภาพคล่องแล้วต้องนำชื่อสมาชิกมาเป็นคนกู้เพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนใช่ไหม จนท.ไม่ตอบ


“ตอนนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบของส่วนกลางที่ลงมาว่าจะแจ้งกับสมาชิกทุกคนว่าอย่างไร ซึ่งขณะนี้สิ่งที่พบมี 2 กรณี คือ 1. เงินหายจากบัญชีของสมาชิกเกือบทุกราย จากหลักหมื่น-หลักแสน เหลือติดบัญชีหลักพัน 2. สมาชิกมีชื่อเป็นผู้กู้เงินโดยที่ไม่เคยกู้มาก่อน บางคนโดนทั้งสองอย่างคือ เงินฝากก็หาย แถมมีชื่อเป็นผู้กู้เงินกับสหกรณ์ฯ อีก บางคนถึงกับเครียดเข้าโรงพยาบาลไปแล้วก็มี เพราะเงินส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุบอกว่าทำงานทุกวันและแบ่งเอามาฝากเพื่อไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต ซึ่งน่าสงสารมาก”


กำลังโหลดความคิดเห็น