MGR Online - ปปป.จ่อออกหมายเรียก “อดีตพระกาโตะ-สีกาตอง” ให้ปากคำ กรณีเบิกเงินวัด 6 แสน จ่ายปิดปากนักข่าว รวมทั้งกรณีฝ่ายหญิงเรียกรับเงิน ขอเวลาตรวจสอบไม่เกิน 3-4 วัน ทุกอย่างจะชัดเจน เผย เจ้าหน้าที่มีข้อมูลเชิงลึกอยู่บ้างแล้ว
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวถึงกรณี อดีตพระกาโตะ หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว พระนักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวมีความสัมพันธ์กับสีกา อีกทั้งได้เบิกเงินวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 6 แสนบาท ไปจ่ายให้คนกลางเพื่อปกปิดข่าวของตนเอง ว่า แม้คดีดังกล่าวจะยังไม่มีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความ แต่กรณีที่อดีตพระกาโตะ เบิกเงินของวัดไปใช้ส่วนตัว ทางตำรวจ บก.ปปป. จึงมีอำนาจในการเข้าตรวจสอบได้ตามหน้าที่โดยตรง แม้จะยังไม่มีเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความ แต่อำนาจของตำรวจ บก.ปปป. เอง ก็สามารถสืบสวนข้อเท็จจริงได้อยู่แล้ว และหากพบกระทำความผิด ก็สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับได้เช่นคดีทั่วไป ซึ่งขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวน บก.ปปป. ลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง คาดว่า ภายใน 3-4 วัน จะมีความขัดเจนมากขึ้น ว่า การกระทำของพระกาโตะ เกี่ยวกับกรณีการเบิกถอนเงินของวัดไปใช้นั้นมีความผิดหรือไม่ จากนั้นก็จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาต่อว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า กรณีที่ อดีตพระกาโตะ ชี้แจงว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินส่วนตัว ตอนนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียดในส่วนนี้ ต้องรอการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนว่าเป็นเงินของวัด หรือเงินส่วนตัว เพราะหากเป็นการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีวัด ในส่วนนี้ก็จะถือว่าเป็นเงินของวัด ซึ่งจำเป็นต้องเรียกสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนกรณีข้อสงสัยที่ว่าหากอดีตพระกาโตะ เข้ามาบริหารวัดในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดชั่วคราว แต่ยังไม่มีการแต่งตั้ง จะมีผลต่อการตรวจสอบหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ต้องขอดูรายละเอียดขอเท็จจริงให้แน่ชัดก่อน แต่เชื่อว่า การที่วัดจะดำเนินการใดๆ จะต้องมีการทำหนังสือแต่งตั้งก่อน ไม่เช่นนั้น อดีตพระกาโตะ จะมีอำนาจดำเนินการภายในวัดได้อย่างไร ถ้าหากไม่มีการแต่งตั้งจริง ผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็จะต้องเป็นไวยาวัจกรของวัด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า การให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ก่อนหน้านี้ ของทางอดีตพระกาโตะเอง ก็ถือเป็นการรับสารภาพเป็นนัยๆ ว่า หมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดอยู่แล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวหากมีการกระทำผิดจริงก็จะถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ และการนำเงินกลับมาคืน ไม่ถือเป็นการลบล้างความผิด เพราะถือว่าความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว ส่วนกรณีระหว่าง “อดีตพระกาโตะ กับ สีกาตอง” นั้น เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และ หลังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมดเสร็จสิ้น จะทำการออกหมายเรียก เชิญตัว “อดีตพระกาโตะ กับ สีกาตอง” มาเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ส่วนการกระทำของสีกาตอง เกี่ยวกับการเรียกรับเงินจากอดีตพระกาโตะ จะเข้าข่ายความผิด กรรโชกทรัพย์ หรือไม่ ต้องขอตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะรวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน ส่งให้ทางตำรวจท้องที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
“ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลเชิงลึกอยู่บ้าง หากทั้งคู่บริสุทธิ์ใจจริงก็อยากให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และเชื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบางส่วนรู้สึกเห็นใจอดีตพระกาโตะ เพราะเป็นคนดี บริหารพัฒนาวัดจนเป็นที่รู้จัก ในส่วนนี้อยากให้แยกแยะว่า การทำความดีกับทำความผิด เป็นคนละส่วนกัน ต้องทำให้เป็นบรรทัดฐาน ผิดก็ว่าไปตามผิด” ผบก.ปปป. กล่าว