ประจวบคีรีขันธ์ - หัวหินถกปัญหาช้างป่าละอู เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนแม่บท ใกล้ฤดูจะเก็บผลผลิตทุเรียนป่าละอู หวั่นว่าปัญหาช้างป่าเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในขณะที่แนวรั้วกันช้างป่าทำได้เพียง 8 กม. ตามโครงการ 43 กม.
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่อาคารศูนย์โอทอปห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.วิรัฏฐ์ วงษ์จันทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 1 พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน ด้วย สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าอำเภอหัวหิน เข้าร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่า
นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าในวันนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาช้างเริ่มมีความรุนแรงทำให้เดือนเมษายน มีผู้เสียชีวิตจากกรณีช้างป่า 2 ราย และต่อมามีการประกาศพื้นที่ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยจากช้างป่า เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศเขตพื้นที่ลักษณะเช่นนี้
รวมทั้งมีการนำแผนแม่บท 8 แผนที่ทำไว้ระหว่างปี 2562-2563 ซึ่งทั้งฝ่ายปกครองหัวหิน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน และคณะกรรมการได้เห็นชอบแผนนี้แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ ประชุมครั้งนี้จึงเป็นการย้ำให้ทุกคนดำเนินการไปตามแผนแม่บท ซึ่งมีแต่ละหน่วยงานที่รู้ว่าต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรอยู่แล้ว
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ช้างป่าในช่วง 2 เดือนนี้เป็นต้นไป เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงทุเรียนป่าละอู ที่เกษตรกรจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่าย โดยมีความเป็นห่วงว่าปัญหาช้างบุกกัดกินทุเรียน และโค่นต้น และทำลายทรัพย์สินให้เกิดขึ้นเหมือนทุกปี ดังนั้น จึงต้องมีการบูรณาการทำงานให้เป็นไปตามแผน อีกทั้งแนวรั้วกันช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกำหนดเดิมคือ 43 กม.วงเงิน 80 กว่าล้านบาท และครบกำหนดปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ตอนนี้พบว่าจะดำเนินการได้เพียง 8 กม.เท่านั้นในวงเงิน 16 ล้านบาท ที่เหลือจะหยุดดำเนินการ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายถึงแม้จะไม่ได้ป้องกันช้างป่าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ รวมทั้งการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างระยะทาง 10 กม. และการสร้าง 2 ข้างทางที่จะเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อให้ผู้สัญจรและนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาได้เห็นทัศนียภาพที่ดีหากมีช้างป่าออกมา รวมทั้งเพิ่มชุดลาดตระเวนร่วมกันของหลายหน่วยงาน นอกจากอุทยาน ทหาร ตชด. อาสาสมัคร และต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเกิดขึ้นอีก
ขณะเดียวกัน กำนันตำบลหนองพลับ ยังได้นำเสนอปัญหาเรื่องของช้างป่าแก่งกระจาน ซึ่งช้างป่าแก่งกระจานในปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เท่านั้น แต่ขณะนี้ช้างป่ายังได้ลงมายังพื้นที่ด่านล่างในโซนหมู่บ้านละเมาะ หมู่บ้านมะค่าสี่ซอง หมู่บ้านคอกช้าง ต.หนองพลับ ประมาณ 13 ตัว มาทำลายพืชผลทางการเกษตร สับปะรด มะม่วง ชาวบ้านต้องมาช่วยกันไล่ช้างกันเองทุกคืนไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาช่วยและผลักดันช้างกลับแต่อย่างใด
พล.ต.วิรัฏฐ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับร้องเรียนปัญหาเรื่องช้างป่าละอูมีการทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต และมีแนวโน้มที่อาจหนักขึ้น วันนี้จึงมารับฟังแผนแม่บทในการป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างเป็นรูปธรรม และย้ำว่าทุกหน่วยเมื่อมีหน้าที่รับผิดชอบแล้วต้องปฏิบัติตาม อย่าให้เพียงเป็นแผนที่อยู่ในกระดาษเท่านั้น โดยทฝตนเองจะได้นำเสนอปัญหาต่างๆ ที่หน่วยงานเสนอมาและบางจุดอาจติดขัดให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบเพื่อให้หาแนวทางขับเคลื่อนแผนให้เดินไปได้ รวมไปถึงแนวทางการป้องกันปัญหาช้างป่าในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนป่าละอู ใน 2 เดือนข้างหน้านี้ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาย่อมส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน และเจ้าของสวนทุเรียน เพราะมันคือรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับ