น้ำตกไทรโยคใหญ่ค่าเข้าชมแพง บ่อปลาคาร์ปที่บ้านสวยกว่า หนุ่มโวยเจ้าหน้าที่ลงติ๊กต็อก

ในติ๊กต็อกมีคลิปชายรายหนึ่งโวยเจ้าหน้าที่ด่านเก็บเงินค่าบริการน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ระบุว่าเก็บค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวไทยแพงเกินไป คนละ 100 บาท ทั้งที่เข้าไปด้านในไม่มีอะไร แหกตาชัดๆ บ่อปลาคาร์ปที่บ้านสวยกว่า

วันนี้ (17 เม.ย.) ในติ๊กต็อกมีผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์วิดีโอคลิปขณะที่ชายรายหนึ่งยืนด่าเจ้าหน้าที่ด่านเก็บเงินค่าบริการน้ำตกไทรโยคใหญ่ ภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตำบลและอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพราะไม่พอใจที่ทางอุทยานฯ เรียกเก็บค่าบริการคนไทยสูงถึง 100 บาท โดยระบุข้อความในคลิปว่า "คนไทยเก็บคนละ 100 บาท แต่สิ่งที่ไปเจอคืออะไร ไทรโยคใหญ่สวยเหรอ" กลายเป็นที่วิจารณ์แก่ชาวเน็ตจำนวนมาก

ชายคนดังกล่าวเปรียบว่าบ่อปลาคาร์ปที่บ้านยังสวยกว่า กล่าวหาว่าที่นี่แหกตา ที่นี่คือสมบัติชาติ ตนคือคนไทยมาเที่ยว 100 บาทแพงเกินไป ฝากบอกให้เจ้าหน้าที่ที่นี่หรือ ผอ.ไปดูที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีบ้าง สวยกว่านี้เป็นร้อยเท่ายังไม่เก็บเงินมากขนาดนี้เลย แต่ที่นี่ต้องจ่ายถึง 1,000 บาท เข้าไปเจออะไร เก็บเงินคนละ 100 บาทมากเกินไป บอกเลยว่าเกินไป นี่คือการแหกตา บัตรเข้าชมเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่เจอคืออะไร ถามหน่อย เสียความรู้สึกมาก ไม่เคยมีปัญหากับการจ่ายค่าเข้าชมที่ไหนเท่าที่นี่

ด้านชาวเน็ตต่างวิจารณ์ว่าค่าเข้าชมน้ำตกไทรโยคใหญ่ถือว่าแพงจริง เพราะนอกจากจะเก็บเงินคนละ 100 บาทแล้ว ยังคิดค่ายานพาหนะคันละ 30 บาท เมื่อเทียบกับที่อื่น เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เก็บค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่คนละ 40 บาทเท่านั้น ถึงกระนั้นอุทยานแห่งชาติฝั่งภาคตะวันตก เช่น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี (รวมน้ำตกป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.กระบี่ ก็เก็บค่าบริการนักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท จึงเกิดข้อสงสัยว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เอาอะไรมาเป็นมาตรฐาน ยิ่งช่วงฤดูแล้ง ไม่มีน้ำก็ไม่ควรเก็บ

อนึ่ง สำหรับน้ำตกไทรโยคใหญ่หรือน้ำตกเขาโจน เป็นหนึ่งในน้ำตกไทรโยค 2 สาย ที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย มีแหล่งกำเนิดจากพุต้นน้ำในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติไทรโยค น้ำตกมีความสูงประมาณ 8 เมตรและมีน้ำไหลตลอดปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาส 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2420 และ ปี พ.ศ. 2431 โดยในครั้งหลัง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงพอพระทัยในความงามของน้ำตกจึงได้นำเพลง “เขมรกล่อมลูก” มาดัดแปลงและเพิ่มเติมกลายเป็นเพลง “เขมรไทรโยค” เพลงไทยเดิมซึ่งเป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วไป