ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สุดทนพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านโนนพยอม ชาวอำเภอน้ำพอง นับร้อยบุกศาลากลางขอนแก่นยื่นหนังสือให้ปลดผู้ใหญ่บ้าน ชี้พฤติกรรมไม่โปร่งใส โกงเงินฌาปนกิจ เผยเคยร้องไปที่อำเภอน้ำพองแต่ไม่คืบ จึงร้องมาที่ศาลากลาง หวังส่งเรื่องตรงถึงผู้ว่าฯขอนแก่น
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชาวบ้านโนนพยอม ม.5 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กว่า 100 คน รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้ปลดผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่โปร่งใส ใช้อำนาจหน้าที่ส่อไปในทางทุจริต โดยมีการลงลายมือชื่อพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนชาวบ้านกว่า 449 ราย ไปพร้อมหนังสือร้องเรียน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นติดราชการ มีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมมารับหนังสือแทน
นางทองดา ผาภู อายุ 62 ปี ชาวบ้านบ้านโนนพะยอม ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า นายบุญทัน กันยา อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งดำรงตำแหน่งมา 7 ปีแล้ว มีการบริหารงานไม่โปร่งใส เช่นขายดินจากโครงการขุดลอกหนองเขของหมู่บ้าน เป็นผลประโยชน์ส่วนตน และใช้เงินส่วนกลางหมู่บ้านจ้างรถแบ็กโฮ รื้อป่าสาธารณประโยชน์หมู่บ้าน ซึ่งจากการประชุมหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่เห็นชอบ คัดค้านไม่ให้ทำ แต่ผู้ใหญ่บ้านยังได้ดำเนินการไม่ฟังเสียงชาวบ้าน
พฤติกรรมของนายบุญทันถือว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดกฎหมาย ขุดรื้อป่าสาธารณประโยชน์หมู่บ้าน โดยไม่รับอนุญาตจากส่วนราชการ และโครงการจัดซื้อปุ๋ยเคมี ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท วัตถุประสงค์โครงการนั้นให้จัดซื้อปุ๋ยเคมี มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรและให้นำผลกำไรมาหมุนเวียนในกลุ่ม แต่ผู้ใหญ่บ้านอ้างว่าเป็นเงินที่ตนเองหามาได้ และนำปุ๋ยเคมีไปขายเอง โดยไม่มีคณะกรรมการรู้เห็น
นอกจากนี้ โครงการจัดซื้อโรงสีข้าวชุมชน และเครื่องมือการเกษตร ผู้ใหญ่บ้านนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตน โดยไม่เอาผลกำไรเข้าส่วนรวม ถือว่าประพฤติตนไม่โปร่งใส และบริหารกองทุนปุ๋ยชีวภาพ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทฟินิคฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนปีละ 50 กระสอบ มูลค่าประมาณ 50,000 บาทต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่มีการชี้แจงต่อที่ประชุม คณะกรรมการสอบถามก็ไม่สามารถชี้แจงได้ จึงเป็นเหตุให้สงสัยว่ากระทำไม่โปร่งใส
ส่วนเงินบัญชีต่างๆ ไม่รู้รายรับ-รายจ่ายใช้จ่าย ไม่มีการชี้แจง ต่อที่ประชุมและต่อชาวบ้านตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง 7 ปี คือ บัญชีเงินวัดชุมพร, เงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน จากอำเภอน้ำพอง, เงินโครงการอยู่ดีมีสุข จำนวน 100,000 บาท, เงินค่าเช่ารายปีของหนองสาธารณะหมู่บ้าน ระยะเวลา 7 ปี, เงินฌาปนกิจหมู่บ้าน ระยะเวลา 7 ปี ผู้ได้รับผลประโยชน์ไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนที่กำหนด ไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวขาดหายไปไหน เมื่อชาวบ้านสอบถามก็ไม่สามารถชี้แจง รายรับ-รายจ่ายได้
ชาวบ้านจึงรวมตัวกันไปร้องเรียนที่อำเภอน้ำพองขอยื่นถอดถอนนายบุญทัน กันยาเนียม ออกจากตำแหน่ง แต่เรื่องเงียบหายไป จึงมายื่นเรื่องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้ปลดผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง เพราะหากปล่อยไว้ก็เปลืองภาษีประชาชน
ด้านนางหนู ศรีสอ อายุ 70 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่มาร่วมยื่นหนังสือ กล่าวว่า ลูกชายเป็นสมาชิกฌาปนกิจหมู่บ้าน มีการจ่ายเงินสมทบตลอดมา และเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ลูกชายอายุ 30 ปีเสียชีวิต ผู้ใหญ่บ้านนำเงินฌาปนกิจมาจ่ายให้ที่งานศพจำนวน 42,200 บาท ตนในฐานะมารดาก็รับไว้ แต่มาทราบทีหลังว่าเงินฌาปนกิจที่รับมานั้นได้ไม่ครบ เพราะจำนวนเงินที่ต้องได้คือ 44,800 บาท จึงสอบถามกับผู้ใหญ่บ้าน กระทั่งทราบว่าผู้ใหญ่บ้านหักเงินไปจ่ายให้กับคนที่ทำหน้าที่จัดเก็บเงินฌาปนกิจหมู่บ้าน
เมื่อได้คำตอบเช่นนั้น จึงถามชาวบ้านที่มีญาติพี่น้องเสียชีวิต ซึ่งทุกคนก็ไม่ทราบจำนวนเงินที่แท้จริง กระทั่งมีการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงสอบถามถึงการหักเงินฌาปนกิจไปจ่ายให้คนเก็บเงิน ซึ่งคณะกรรมการต่างก็ไม่มีใครทราบเรื่อง เพราะที่ผ่านมาคนเก็บเงินก็ทำหน้าที่เอง โดยไม่ได้รับค่าจ้างหรือเบี้ยเลี้ยงแต่อย่างใด ทำให้เรื่องเปิดเผย รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านประพฤติตนไม่เหมาะสมทำงานไม่โปร่งใส ชาวบ้านจึงลุกฮือมาขับไล่และปลดผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องการให้ผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่ต่อไปอีก
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นได้ออกมารับหนังสือจากชาวบ้าน พร้อมกล่าวว่าจะนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นให้ทราบเรื่อง เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านร้องเรียนมาต่อไป
