พิจิตร - ครูเก่าพิจิตรร้อง ป.ป.ท.สอบข้อเท็จจริงโรงงาน-แพลนต์ปูนตั้งติดรั้วขนาบบ้านพักทำเดือดร้อนมานับ 10 ปี อุตสาหกรรมจังหวัดเคยรับเป็นโรงงานไม่ได้รับอนุญาต แต่ 24 มีนาฯ กลับออกใบแจ้งเป็นโรงงานจำพวก 2 อีก
ความคืบหน้ากรณีนายบุญเลิศ ลี่ประเสริฐ อายุ 65 ปี และนางพูลศรี ลี่ประเสริฐ อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา อดีตข้าราชการครูโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนว่า 2 โรงงานสร้างติดรั้วบ้านพักอาศัย เลขที่ 147 หมู่ 5 ต.ห้วยเกตุ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งเสียงดัง-ฝุ่นละออง ทำให้ใช้ชีวิตด้วยความเดือดร้อนมานานนับสิบปี
ต่อมานายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบบ้านที่มีการร้องเรียนมีโรงงานจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จและเป็นแพลนต์ปูน รวมถึงโรงงานค้าเหล็กตั้งอยู่ข้างรั้วบ้านทั้งสองข้าง
ล่าสุดนายบุญเลิศ ลี่ประเสริฐ อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งอยู่บ้านหลังดังกล่าว ได้นำหนังสือพร้อมด้วยหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อนายสัญชาติ อุปนันชัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 5 รักษาการแทน ผอ.สนง.ป.ป.ท.เขต 6 ซึ่งมอบหมายให้ ดร.ทวุฒิ หลวงแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ป.ป.ท.เขต 6 รับเรื่อง
ผู้ร้องระบุว่าโรงงานที่อยู่ติดรั้วบ้านสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยมีฝุ่นละอองและเสียงดัง ซึ่งที่ผ่านมาตนและเพื่อนบ้านเกือบ 20 ครอบครัวเคยรวมตัวกันร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม-สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรหลายครั้ง รวมถึงเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65 นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าฯ พิจิตร ก็ลงพื้นที่เผชิญสืบหาข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน แต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข
นายบุญเลิศ ผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ท.ภาค 6 ว่า เมื่อ 13 ม.ค. 65 อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรมีหนังสือมาถึงตนเอง เรื่อง..ขอคัดค้านการทำประชาพิจารณ์และคัดค้านการสร้างแพลนต์ปูนของโรงงานที่อยู่ข้างบ้านดังกล่าว โดยระบุชัดเจนว่าโรงงานดังกล่าว “เป็นการตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งตรงกับข้อมูลของสื่อมวลชนที่ไปสัมภาษณ์อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65
แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 65 ก็มีประกาศของ สนง.อุตสาหกรรมพิจิตร เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับโรงงานจำพวกที่ 2 พวกชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจึงได้ทำเป็นหนังสือคัดค้านและเข้าไปยื่นที่ สนง.อุตสาหกรรมพิจิตรเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65
ต่อมาวันที่ 24 มี.ค. 65 อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรก็ออกประกาศ ว่าเห็นควรออกใบรับแจ้งการประกอบกิจการโรงงานจำพวก 2 ให้กับโรงงานดังกล่าวที่สร้างผลกระทบให้แก่ตนและเพื่อนบ้าน โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านและอำนวยความสะดวกให้แก่โรงงานที่ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรบอกว่าเป็นโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตมาตั้งแต่ปี 2562
“ผมมองว่าพฤติกรรมหรือการกระทำดังกล่าวไม่ชอบมาพากล จึงได้มาร้องเรียนยัง ป.ป.ท.เขต 6 ให้ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ. ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.การผังเมือง, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน, พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่าได้มีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่มีต่อประชาชนในพื้นที่”
ด้าน ดร.ทวุฒิ หลวงแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ป.ป.ท.เขต 6 ผู้รับเรื่องร้องเรียน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้เป็นเพียงการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวน สืบสวน สอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง จึงยังไม่ระบุหรือชี้ชัดว่าเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดหรือไม่
แต่เชื่อมั่นว่ากระบวนการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของ ป.ป.ท.เขต 6 นั้นยึดความสุจริตและระเบียบกฎหมาย เป็นที่ตั้ง หากเจ้าพนักงานของรัฐมองเห็นประโยชน์ของชาวบ้านเป็นที่ตั้งมีเจตนาสุจริตก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวนี้คงต้องขอเวลาทำงานสักระยะหนึ่งก็จะทราบความจริง ถ้ามีความคืบหน้าจะได้รายงานให้สังคมและสื่อมวลชนได้รับรู้รับทราบต่อไป