เอปสัน เดินหน้านำกลยุทธ์ 5Ss นำจุดแข็งเทคโนโลยี ความง่ายในการเข้าถึง รวมถึงพัฒนานวัตกรรมสร้างจุดต่าง บนการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเติบโตในไทย 10% ท่ามกลางปัจจัยท้าทายจากทั้งสถานการณ์โควิด และปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ที่ขาดแคลน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการทำธุรกิจไอทีในปีนี้ ว่ายังอยู่ท่ามกลางปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลต่อเนื่องถึงปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ที่ขาดแคลน รวมถึงในแง่ปัญหาการขนส่งจากช่องทางโลจิสติกส์ ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
“อีกปัจจัยคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้น ทำให้ในภาพรวมของจีดีพีประเทศไทยอาจมีการปรับลดลง ต้นทุนการผลิต กระบวนการขนส่งต่างปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน หลังจากปีที่ผ่านมามีการทำดิจิทัลทรานฟอร์มเชัน ทำให้ในปีนี้เอปสันต้องมีการปรับตัวให้ยืดหยุ่น และรวดเร็วมากขึ้น”
ในปีนี้ เอปสันได้กำหนดแผนกลยุทธ์สำหรับปี 2565 นี้ขึ้น โดยผสานจุดแข็งทุกด้าน ขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าฝ่ายุคโควิด สร้างการเติบโตมากกว่า 10% โดยจุดแข็งดังกล่าวที่รวมกันเป็นส่วนผสมของความสำเร็จ หรือ 5Ss ประกอบด้วย Smart technology, Simple start, S-curve trend, Service excellence และ Sustainable value
ประกอบด้วย การนำเสนอเทคโนโลยีอัจฉริยะ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน ตามด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงการใช้งานได้ง่ายขึ้น อย่างการเช่าใช้ (‘Epson EasyCare 360 เหมา เหมา’) และเตรียมขยายสู่การเปิดให้เช่าใช้โปรเจกเตอร์เพิ่มเติมภายในปีนี้
นอกจากนี้ ยังเร่งพัฒนาสินค้า และเทคโนโลยี ในการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่รับกับเทรนด์รักษ์โลก อย่าง PaperLab ที่เป็นเครื่องรีไซเคิลกระดาษแบบแห้งเครื่องแรกของโลก รวมถึงการเปิดตัวหุ่นยนต์แขนกลเพิ่มเข้ามา เพื่อจับกลุ่ม 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล
จนถึงการเร่งพัฒนาบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่มี 184 สาขา ทั่วประเทศ และมี 164 สาขา ที่รองรับการให้บริการแบบ On-Site Service สุดท้ายในแง่ของความยั่งยืน ที่มุ่งเดินหน้าตามเป้าหมายในการสนับสนุนแนวทางการพัฒนาความยั่งยืนในองค์กรด้วย
สำหรับภาพรวมในปีที่ผ่านมาเอปสัน มีการเติบโตจากปีก่อนหน้าราว 9% โดยถือว่าเป็นผลประกอบการที่น่าพอใจ เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากสินค้าขาดสต็อกในบางช่วงเวลา โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา มีทั้งกลุ่มหุ่นยนต์แขนกล เครื่องพิมพ์ฉลาก เครื่องพิมพ์แผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่ธุรกิจเริ่มกลับมา รวมถึงกลุ่มโปรเจกเตอร์ เครื่องพิมพ์หมึกความจุสูง
