ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ประสานงานผู้ป่วยจังหวัดขอนแก่นเผยถูก ผอ.รพ.ขอนแก่น นพ.เกรียงศักดิ์
วัชรนุกุลเกียรติ แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทฯ ยันวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อสงสัยในฐานะประชาชน และเชื่อว่าตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลเป็นบุคคลของรัฐที่สามารถตำหนิวิจารณ์การทำงานได้
ภายหลังข่าว นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกุลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งล้วนเป็นแพทย์ประจำ รพ.ขอนแก่นในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท แพร่สะพัดออกไป ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มองว่าหากเป็นปัญหาภายในองค์กร ควรจะหาทางออกด้วยการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงและใช้บทลงโทษตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขบัญญัติไว้ ไม่ต้องถึงขั้นต้องใส่เสื้อกาวน์ขึ้นโรงขึ้นศาลให้อายคนป่วย เป็นขี้ปากชาวบ้าน
เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ท่านไม่ใช่หมอจบใหม่ เป็นถึงนายแพทย์เชี่ยวชาญ คือ พญ.จรรยาภรณ์ รัตนโกศล อดีตประธานควบคุมภายในโรงพยาบาลขอนแก่น, นพ.ธรรมสรณ์ จีรอาพรวัฒน์ อดีตประธานตรวจสอบภายใน และอีกหนึ่งท่านเป็นนายแพทย์ชำนาญการพิเศษ พญ.รักฝัน สวัสดิ์พาณิชย์ ปัจจุบันเป็นประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น
ส่วนปมปัญหาที่นำไปสู่การยื่นฟ้องเป็นเพราะเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 พญ.จรรยาภรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมภายในโรงพยาบาลขอนแก่นในขณะนั้น พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรแพทย์และเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นจำนวนหนึ่งได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ขอให้มีการตรวจสอบการบริหารงานของ นพ.เกรียงศักดิ์ ผอ.รพ.ขอนแก่น
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมล่าสุดอีกว่าไม่ได้มีแค่คุณหมอ 3 ท่านข้างต้นเท่านั้นที่ถูก นพ.เกรียงศักดิ์ ฟ้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท นายภัตธนสันต์ เสงี่ยมศรี ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ป่วยจังหวัดขอนแก่นก็ถูกแจ้งความฟ้องร้องด้วยเช่นกันเมื่อต้นเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยนายภัตธนสันต์เปิดเผยถึงที่มาของการถูก นพ.เกรียงศักดิ์แจ้งความดำเนินคดีว่าน่าจะเป็นเพราะตนโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในทำนองวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการบริหารงานของคุณหมอเกรียงศักดิ์ในฐานะเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่นที่มีข้อสงสัยหลายประเด็นที่ควรจะได้รับการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ทุกข้อความที่โพสต์หรือทุกคำพูดที่เคย Live ผ่านเฟซบุ๊กนั้นล้วนอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ผู้คนในสังคมกังขาทั้งนั้น
นายภัตธนสันต์กล่าวยืนยันว่าตนไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทคุณหมอเกรียงศักดิ์ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ในฐานะตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ถือเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นข้าราชการเป็นคนของรัฐที่มีรายได้จากเงินภาษีแผ่นดิน ประชาชนมีสิทธิ์วิจารณ์การทำงานเพื่อให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม เป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย
“ผมให้การปฏิเสธต่อพนักงานสอบสวน ไม่ยอมรับข้อหาที่แจ้งความ ผมบริสุทธิ์ใจ คุณหมอน่าจะพิสูจน์ตัวเองในประเด็นต่างๆ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากกว่ามาค้าความ มาแจ้งความประชาชนธรรมดาอย่างผม คงต้องการขู่ให้ผมหยุดพูดหยุดวิจารณ์มากกว่า และน่าสังเกตว่าการแจ้งความฟ้องหมิ่นในครั้งนี้คุณหมอตั้งใจให้เป็นคดีความส่วนตัวเพราะใช้คำนำหน้าชื่อว่านาย ไม่ใช่นายแพทย์และไม่มีตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลห้อยท้ายชื่อ” นายภัตธนสันต์กล่าว
นายภัตธนสันต์กล่าวต่อด้วยความกังขาว่าเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ตนในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ป่วยจังหวัดขอนแก่นได้ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขผ่านนายแพทย์ สสจ.ขอนแก่นกรณีภาคประชาสังคมข้องใจเป็นอย่างมากว่า นพ.เกรียงศักดิ์เองมีเรื่องร้องเรียนเรื่องทุจริตอยู่ ทำไมถึงได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายให้มานั่งบริหารงานโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่าง รพ.ขอนแก่น
เรื่องนี้ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อํานวยการองค์การเภสัชกรรม ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร้องเรียนพฤติกรรมของ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะทํางานกําหนดอัตราค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทําผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีการจัดหาชุดตรวจสําหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits จํานวน 8,500,000 ชุด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 แต่กลับปรากฏว่าปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกร้องเรียน ป.ป.ช.แต่อย่างใด ไม่มีคำสั่งย้ายเข้าประจำกระทรวงเหมือนกรณีผู้ถูกกล่าวหารายอื่นๆ ที่เคยปฏิบัติสืบกันมา แต่กลับมีคำสั่งกระทรวงให้ นพ.เกรียงศักดิ์ย้ายมานั่งเก้าอี้ ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น
“นับจากวันที่ผมยื่นหนังสือไปจนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบจะครบ 5 เดือนแล้วไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย เรื่องเงียบไปหายไปกับสายลมแสงแดด อย่างน้อยทางกระทรวงควรจะส่งหนังสือตอบกลับ อธิบายชี้แจงมาเป็นข้อๆ ให้ประชาชนได้หายสงสัย เก็บเรื่องเงียบกันอย่างนี้เหมือนไม่เห็นหัวไม่เห็นค่าประชาชน” นายภัตธนสันต์กล่าวทิ้งท้าย