พิษณุโลก - "จุติ" เตือนคนไทยเตรียมรับวิกฤตเพิ่ม บอก..โควิด-19 ยังไม่ฟื้น เจอสงครามรัสเซีย-ยูเครนซ้ำ ย้ำไม่ใช่แค่น้ำมันที่แพงขึ้น แต่ 2 ประเทศคู่สงครามเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีใหญ่ของโลก ล่าสุดราคาพุ่งแล้ว 300% ทำต้นทุนอาหารสัตว์ล็อตใหม่ขยับ ราคาหมู-ไก่พุ่งทันที ไม่เว้นอุตฯ มือถือ-ทีวี-รถยนต์ด้วย
วันนี้ (10 มี.ค. 65) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพสตรีและการประชุมเชิงปฏิบัติการสมัชชาสตรีจังหวัดพิษณุโลก เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2565 พร้อมทั้งพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำสตรีท้องถิ่น โดยมีนางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา และนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม.ร่วมงานที่โรงแรมเมย์ฟลาวเวอร์ แกรนด์ จังหวัดพิษณุโลก
รมว.พม.กล่าวว่า วันนี้โลกทั้งโลกรวมทั้งประเทศไทยอยู่ท่ามกลางความปั่นป่วน ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต้องตามให้ทัน เดิมสถานการณ์โควิด กระทบเรื่องสุขภาพ ลามกระทบการทำอาชีพ การขาดรายได้มา 2 ปีแล้ว ล่าสุดโลกกำลังจะฟื้น แต่ก็มาเจอสงคราม ซึ่งสงครามก็ป่วนในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางพลังงาน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางทหารในภูมิภาคนี้ ฉะนั้นต้องตั้งหลัก ตั้งสติ เราคนไทยต้องเป็นหนึ่งเดียวกันถึงจะเอารอด
“สงครามรัสเซีย ยูเครน กำลังกระทบถึงคนไทย เพราะว่าทุกวันนี้ประเทศไทยซื้อปุ๋ยจากรัสเซีย จีน ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเตรียมวางแผนขอซื้อปุ๋ยเพิ่มจากจีนหรือรัสเซีย เพื่อคนไทยใช้ปุ๋ยถูก ขณะที่รัสเซียกับยูเครนเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีขนาดใหญ่ ใช้ผลิตอาหารสัตว์ทั้งหมูและไก่ ผสมกับกากถั่วเหลือง-ปลาบ่น ปัจจุบันราคาข้าวลาลีพุ่งสูงกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจากนี้ต่อไปบอกได้เลยว่าหากสต๊อกอาหารสัตว์หมดวันใด และไทยต้องนำเข้ามาใหม่ นั่นคือราคาอาหารสัตว์จะต้องขึ้นอีก นั่นหมายถึงราคาหมู ไก่ ในประเทศย่อมปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องบอกให้คนไทยเตรียมรับมือสถานการณ์นี้”
และไม่เพียงแต่ภาวะอาหารโลกเสียความสมดุลไป ความมั่นคงด้านพลังงานก็เสียไปเช่นกัน เพราะคนไทยเผชิญราคาน้ำมันแพงไม่หยุด กลายเป็นความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และกำลังส่งผลต่อผู้ประกอบการวงกว้าง ขณะที่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและทีวีก็แย่ เพราะใช้ชิป-รีโมต ซึ่งชิปผลิตมาจาก “นีออนแก๊ส” ซึ่งประมาณร้อยละ 90 ของโลกที่ผลิตได้นั้น มาจากประเทศยูเครน ฉะนั้นเมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ โทรศัพท์มือถือ ทีวี ก็ผลิตไม่ได้ ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้อุปกรณ์ส่วนควบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ย่อมกระทบไปด้วย รถใหม่จะออกสู่ตลาดช้าลง
นายจุติเผยอีกว่า ภาวะโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทย กำลังถูกซ้ำเติมภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนอีก ยอมรับว่ารัฐบาลควรเก็บรายได้ประมาณ 7 แสนล้านบาทห้วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถเก็บได้ ปีที่แล้วรัฐบาลตั้งงบประมาณรายจ่ายแผ่นดิน 3.3 ล้านล้านบาท ปีนี้จะต้องตั้งงบประมาณรายจ่าย 3.1 ล้านล้านบาท
นั่นหมายความว่า จะต้องเก็บรายได้ตลอดระยะเวลา 5 ปี แต่เงินเดือนข้าราชการต้องขึ้นทุกปี ฉะนั้น อาจต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการตัดลดงบประมาณรายจ่ายลงทุกกระทรวง (ทั้ง 20 กระทรวง) คาดว่าจะตัดงบประมาณเท่าๆ กัน คือกระทรวงละ 10,000 ล้านบาท นี่คือผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
