“อนุทิน” แจงเสนอประกาศ UCEP เพื่อรักษาความมั่นคงระบบ สธ.ไม่ใช่เพื่อประหยัดงบประมาณ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ปัดขัดแย้ง กทม.ดูแลผู้ป่วยโควิด ยัน กทม.เจ้าภาพหลัก สธ.ฝ่ายสนับสนุน เผย เสนอ ศบค.ชุดใหญ่ปรับวงเงินประกันสุขภาพต่างชาติ เหลือ 30,000 เหรียญ
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและเห็นชอบให้เลื่อนประกาศเรื่องผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน (UCEP) ว่า กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอหลักการนี้เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบสาธารณสุข การที่มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน หากมีความต้องการที่จะใช้เตียง หรือ เวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลจะต้องมีความพร้อม แต่ ครม.มีสิทธิ์ห่วงใย อย่าไปเข้าใจผิดว่ามีการตีกลับหรือตีตก และไม่ได้ยกเลิกข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ขอให้ไปพิจารณา และสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อป้องกันความสับสน และวันเดียวกีนนี้ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จะพิจารณาเรื่องนี้ด้วย พร้อมกันนี้ ตนได้ยืนยันกับนายกรัฐมนตรี ว่า การประกาศยกเลิก UCEP ไม่ใช่การที่กระทรวงสาธารณสุขจะประหยัดงบประมาณ เพราะมีงบประมาณเพียงพอ และนายกฯ ไม่เคยมีแนวคิดจะตัดงบประมาณหรือประหยัดงบประมาณ เพราะการดูแลประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อถามถึงแนวทางแก้ปัญหาสายด่วน 1330 ของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่คู่สายไม่เพียงพอ และประชาชนโทร.ไปไม่มีคนรับโทรศัพท์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทาง สปสช.เร่งแก้ปัญหา และต้องเพิ่มคู่สายหรือเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ จึงได้ประสานงานกับ กทม.เพื่อแก้ปัญหาแล้ว ยืนยันว่า ในพื้นที่ กทม.มีเตียงเพียงพอ และต่างจังหวัดก็มีความพร้อมรองรับผู้ป่วย ทั้งนี้ ย้ำว่า พื้นที่กรุงเทพฯ กระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจหลักในการสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพฯเท่านั้น กทม.เป็นเจ้าภาพหลักการสั่งการหรือบริหารจัดการจะอยู่กับกรุงเทพฯเป็นหลัก และกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ประสานการทำงานกับ กทม.ในทุกๆ เรื่อง
เมื่อถามว่า จะสามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้หรือไม่ว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้ ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นจะไม่เกิดปัญหาแบบเดิมอีก เพราะที่ผ่านมา ดูเหมือนกระทรวงสาธารณสุข กับ กทม.ไม่ได้ประสานงานกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ประสานงานกันมาตลอด ไม่ได้ขัดแย้ง และพร้อมสนับสนุนการทำงานของ กทม.ที่เป็นเจ้าภาพหลักเสมอ และเมื่อ กทม.ร้องขอมาตามระบบสาธารณสุขก็พร้อมสนับสนันทันที เพียงแต่จะไม่ก้าวก่ายหน้าที่กัน ส่วนต่อจากนี้จะไม่มีภาพคนป่วยนอนข้างถนนรอเตียงใช่หรือไม่นั้น ขอให้สอบถามทาง กทม.เอง เพราะสาธารณสุขเป็นเพียงผู้สนับสนุน
เมื่อถามต่อว่า วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 20,000 รายแล้ว จะเสนอมาตรการอะไรในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องควบคุมตัวเลขผู้เจ็บป่วยและผู้เสียชีวิต ไม่ให้เพิ่มขึ้นเหมือนกับตัวเลขผู้ติดเชื้อ ขณะเดียวกัน จะมีการยกเลิกการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อหรือไม่ ส่วนมีการเสนอว่าควรหยุดแจ้งตัวเลขผู้ติดเชื้อ เพราะเมื่อตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นประชาชนวิตกกังวล
นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องอยู่กับความจริง ยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่เคยแต่งตัวเลข หรือปิดยังความจริง ให้ข้อมูลที่เป็นความจริงกับประชาชนมาตลอดตั้งแต่วันแรก จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากนำเสนอความจริงเท่านั้น
เมื่อถามอีกถึงกรณีที่จะมีการปรับลดวงเงินประกันของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นายอนุทิน กล่าวว่า กรมควบคุมโรคจะเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันเดียวกันนี้ เพื่อพิจารณาวงเงินประกันสุขภาพลดลงเหลือ 30,000 เหรียญ หรือประมาณ 1 ล้านบาท เพราะมีความเหมาะสม เพียงพอ และครอบคลุมในการรักษาพยาบาล โดยอ้างอิงจากค่ารักษาพยาบาลคนไทยที่ติดโควิดและรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 200,000 บาทต่อคน อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกต่อทุกฝ่าย หากไปควบคุมจะทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอีก ดังนั้น สิ่งใดที่ผู้ประกอบการร้องขอมาและสามารถทำได้ในแบบที่เหมาะสมก็จะดำเนินการให้ ทั้งนี้ ยืนยันไม่กระทบต่องบประมาณของประเทศ