เชียงใหม่ - เถ้าแก่เนี้ยร้านยางเชียงใหม่ปิ๊งไอเดียทำขาย “ไส้อั่วปลาหมึก” พลิกวิกฤตช่วงเนื้อหมูราคาแพงเปลี่ยนเป็นโอกาสสร้างสรรค์เมนูแหวกแนวคัดสรรวัตถุดิบจากท้องทะเลพาขึ้นเหนือแอ่วดอย ผสมผสานสูตรเด็ดอาหารพื้นเมืองจัดเต็มครบเครื่อง ย่างเตาถ่านร้อนๆ หอมกรุ่น รสชาติอร่อยกลมกล่อม ทำลูกค้าติดอกติดใจเป็นแถว ส่งขายทั่วประเทศ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในช่วงตั้งแต่ปลายปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2565 นี้ ที่เกิดสถานการณ์ราคาเนื้อหมูสดปรับสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจนส่งผลกระทบทั้งต่อประชาชนผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ต่างต้องปรับตัวไปตามๆ กันนั้น ที่ “ร้านนงพรรณไส้อั่ว” ที่เปิดเป็นร้านขายอาหารพื้นเมืองเหนือ พร้อมกับธุรกิจเดิมของครอบครัวที่เป็นร้านขายยางยนต์ ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ขาเข้าเมืองเชียงใหม่ ก่อนถึงไฟแดงสี่แยกข่วงสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับตำนานจากเมนูเด็ด “ไส้อั่วเห็ดถอบ” ที่ทำออกขายเพียงปีละครั้งเฉพาะช่วงฤดูเห็ดถอบเท่านั้นต่อเนื่องมาตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา เป็นอีกร้านหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์เนื้อหมูสดราคาแพง เพราะเนื้อหมูถือเป็นวัตถุดิบหลักของการทำไส้อั่ว
อย่างไรก็ตาม พบว่าทางร้านนงพรรณไส้อั่ว ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความอร่อยและการคิดค้นพัฒนาเมนูไส้อั่วด้วยวัตถุดิบแปลกใหม่ ได้ถือวิกฤตที่เกิดขึ้นพลิกผันเป็นโอกาสด้วยการนำ “ปลาหมึก” ที่เป็นวัตถุดิบจากท้องทะเลมาประยุกต์ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารเหนืออย่างไส้อั่ว ด้วยการผสมผสานวัตถุดิบและปรุงรสอย่างครบเครื่อง พร้อมผ่านการปรับปรุงสูตรอย่างพิถีพิถันและพิสูจน์รสชาตินับครั้งไม่ถ้วนนานนับเดือน จนกระทั่งได้สูตรลงตัวในการทำไส้อั่วปลาหมึกที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม และออกวางขาย ซึ่งลูกค้าหลายรายที่ได้ลิ้มลองแล้วต่างถูกปากจนต้องยกนิ้วให้
นางอนงพรรณ โฆษิตสกุลชัย อายุ 67 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ช่วงที่เนื้อหมูราคาแพงทางร้านได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเนื้อหมูถือเป็นวัตถุดิบหลักของการทำไส้อั่ว อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบทำอาหารอยู่แล้ว และมักจะประยุกต์วัตถุดิบต่างๆ นำมาปรุงเป็นเมนูอาหารใหม่ๆ จึงเกิดแนวความคิดว่าในเมื่อเนื้อหมูราคาแพงก็น่าจะถือโอกาสนี้นำอาหารทะเลสดอย่างปลาหมึกมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำไส้อั่วบ้าง จากนั้นจึงเริ่มต้นทดลองทำไส้อั่วปลาหมึก ด้วยความตั้งใจว่าอยากให้ได้ไส้อั่วที่ให้ความรู้สึกและรสชาติของการรับประทานอาหารทะเล แต่ขณะเดียวกันยังคงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารพื้นเมืองเหนือเอาไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนและอร่อยกลมกล่อม
ทั้งนี้ใช้เวลาในการคิดค้นส่วนผสมและปรับสูตรต่างๆ นานนับเดือน พร้อมกับรับประทานกันในครอบครัวและแจกจ่ายให้เพื่อนฝูงคนรู้จักนำไปลองชิม ซึ่งทุกคนต่างชื่นชอบและบอกว่ารสชาติอร่อยแปลกใหม่ลงตัว โดยเฉพาะเมื่อรับประทานตอนที่เพิ่งย่างไฟเสร็จใหม่ๆ จากนั้นจึงเริ่มต้นทำออกวางขาย โดยสั่งซื้อปลาหมึกคุณภาพดีส่งตรงจากทะเลมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต เปรียบเทียบเหมือนเอาปลาหมึกขึ้นเหนือมาเที่ยวดอย ซึ่งลูกค้าต่างตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนขั้นตอนการทำนั้น เริ่มจากการนำปลาหมึกมาหั่นล้างทำความสะอาดอย่างดี แล้วนำไปต้มสุก จากนั้นนำไปบดหยาบ ก่อนที่จะผสมเข้ากับเนื้อหมู, ใบมะกรูดสับ, ต้นหอมสับ และผักชีสับ รวมทั้งพริกแกงและน้ำปรุงรสสูตรเฉพาะของทางร้าน จากนั้นทำการตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วจึงนำส่วนผสมที่ได้ออกมาทำการยัดใส่ไส้หมูแท้ทำเป็นไส้อั่ว ก่อนที่จะนำไปย่างเตาถ่านกะลามะพร้าวขายหน้าร้านและแพกสุญญากาศแช่เย็น ขายในราคากิโลกรัมละ 550 บาท ซึ่งหลังจากที่เริ่มทำออกขายปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าขาประจำดั้งเดิมที่ได้ชิมแล้วต่างชื่นชอบติดใจรสชาติแปลกใหม่และมีการสั่งซื้อแล้วจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน นางอนงพรรณบอกว่า นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ อีก ได้แก่ ไส้อั่วสะตอ,ไส้อั่วเห็ดหอมขาหมู, ไส้อั่วสูตรดั้งเดิม, ไส้อั่วสามเซียน (เห็ดสามอย่าง), ซี่โครงหมูย่าง, สันคอหมูย่าง, น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกตาแดง ส่วนไส้อั่วเห็ดถอบที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนั้น ต้องอดใจรอให้ถึงฤดูเห็ดถอบอีกประมาณ 2 เดือน เพราะทางร้านมีจุดยืนชัดเจนว่าจะใช้เห็ดถอบสดใหม่เท่านั้นเนื่องจากให้รสชาติอร่อยและคุณภาพดีกว่าการใช้เห็ดถอบต้มแช่แข็งหรือเห็ดถอบกระป๋อง
ลูกค้าที่สนใจเลือกซื้อไส้อั่วและอาหารพื้นเมืองต่างๆ นั้น นางอนงพรรณบอกว่า สามารถเลือกซื้อได้ที่หน้าร้าน ที่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณหน้าร้านยางรถยนต์ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวตั้งเตาย่าง ทั้งแบบพร้อมรับประทาน และแบบที่แพกแช่เย็นไว้อย่างดี ขณะเดียวกันทางร้านยังมีการเปิดขายผ่านช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก “นงพรรณไส้อั่วย่าง” ด้วย ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ทางร้านพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศโดยคิดค่าส่งตามจริง
