ระยอง - กองทัพเรือยุติภารกิจกู้คราบน้ำมันกลางทะเลระยอง พร้อมส่งมอบพื้นที่ให้กรมเจ้าท่า เร่งฟื้นฟูทรัพยากรต่อไป ด้านผู้บริหาร SPRC ขอบคุณทุกฝ่าย ประกาศพร้อมเยียวยา ส่วน ผวจ.ยึดคำสั่งศาลเหตุการณ์ปี 56 เป็นแนวทางช่วยประชาชน
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (4 ก.พ.) นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายธีรพล ประภากร ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน
นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้ร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติงานการขจัดคราบน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง ที่ห้องประชุมเคียงทะเลรีสอร์ท ริมหาดแม่รำพึง
พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพเรือได้ระดมสรรพกำลังทั้งยุโธปกรณ์ และกำลังพล เข้าดำเนินการเก็บกู้คราบน้ำมันทันทีตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ ผบ.ทร.มีความเป็นห่วงและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทั้งภาคการท่องเที่ยว ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบกลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว
และปัจจุบันไม่พบคราบน้ำมัน กองทัพเรือจึงพร้อมที่จะปิดศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันรั่ว เพื่อส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟื้นฟูต่อไป
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลชายหาดระยอง เป็นข้อมูลพื้นฐานความเปลี่ยนแปลงสภาพน้ำทะเล โดยแนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำบริเวณลานหินขาวหินดำ-ก้นอ่าวในช่วงนี้ไปก่อน
โดยเฉพาะเด็กที่มีผิวที่บอบบาง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษจะใช้เวลาในการเฝ้าระวังต่อไปอย่างน้อย 3 ปี เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้วหรือไม่
ด้าน มิสเตอร์โรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคน และยืนยันว่าบริษัทฯ พร้อมที่จะร่วมฟื้นฟูทะเลระยองให้กลับมาสู่สภาวะปกติ รวมถึงสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก และจะเยียวยาความเสียหาย รวมถึงฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เสียหายในครั้งนี้ด้วย
ส่วน นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เผยว่า สิ่งที่ทางจังหวัดจะดำเนินการหลังจากนี้คือ การดูแลเรื่องค่าเยียวยาชดเชยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะใช้บทเรียนจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในปี 2556 ที่มีคำพิพากษาของศาลเป็นตัวอย่างอยู่แล้วเป็นแนวทางในการเรียกร้องค่าเยียวยาต่อไป
“เบื้องต้นได้แนะนำไปยังบริษัทเจ้าของน้ำมันว่าไม่จำเป็นต้องรอให้มีการเจรจาจนแล้วเสร็จ เพราะขณะนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่มีรายได้ และบริษัทฯ ควรอนุมัติงบประมาณจำนวนหนึ่งเพื่อชดเชยความเสียหายในสัปดาห์หน้าก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น” ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าว