พิจิตร – คิงส์เกต-อัครารีซอร์สเซส เริ่มขยับ..เคาะสนิมเครื่องจักรเตรียมเปิดเหมืองทองพิจิตรอีกรอบ พร้อมรอวันอนุญาโตชี้ขาด หลังโดนสั่งปิดขุมเหมืองมากว่า 5 ปี ล่าสุดได้ไฟเขียวต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม-ประทานบัตรแปลงเดิม
ความคืบหน้ากรณีเหมืองทองอัครา ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ที่ถูกสั่งปิดมานานกว่า 5 ปี ขณะที่ “คิงส์เกต” บริษัทแม่สัญชาติออสเตรเลีย ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยต่ออนุญาโตระหว่างประเทศ และกำลังรอการชี้ขาดกันอยู่นั้น ล่าสุดเริ่มปรากฎความเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นทุกขณะ
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ได้เชิญผู้นำท้องถิ่นในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบขุมเหมือง ที่อยู่ในเขตพิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ประกอบด้วย นายกฤษณะ ก้อนแก้ว นายก อบต.เขาเจ็ดลูก , นางสาวฉัตรนภา เมืองแป้น นายก อบต.ท้ายดง , นายสุพจน์ กระออมแก้ว สจ.เขต อ.ทับคล้อ พิจิตร , นายนิพล ผลน้อย กำนันตำบลเขาเจ็ดลูก , นายสมคิด รินนาศักดิ์ สจ.อ.วังโป่ง เขต1 เพชรบูรณ์ , นายธวัชชัย พรมดี กำนันตำบลท้ายดง , นายสำราญ แก้วดอก กำนันตำบลวังโพรง รับฟังการอธิบายและตอบข้อซักถามของการกลับมาเปิดดำเนินการของเหมืองทองอัครา
ตัวแทนของอัคราได้ชี้แจงกับผู้นำชุมชนว่า กรณีบริษัทได้รับการต่ออายุประทานบัตรเพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำและเงิน จำนวน 4 แปลง(เดิม) ออกไปอีก 10 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2574 และการได้รับอนุญาตการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม ออกไปอีก 5 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 18 มกราคม 2570 นั้น
บริษัทขอชี้แจงกับผู้นำชุมชน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ให้ช่วยนำข้อมูลไปสื่อสารกับชาวบ้านด้วยว่า อัคราฯจะกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง โดยช่วงแรกในระยะ 5 เดือนนับจาก 1 ก.พ.65 จะเป็นการส่งทีมช่างที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักร เครื่องยนต์ พาหนะและยานยนต์ อาคารสถานที่ เข้าซ่อมแซมปรับปรุงให้ทุกอย่างมีสภาพพร้อมใช้งาน ก่อนรายงานไปยังกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ให้มาตรวจความพร้อมเพื่อเข้าสู่การดำเนินกิจการ
จากนั้นก็จะประกาศรับสมัครคนงาน ซึ่งมีข้อตกลงเอาไว้ว่า 90% จะต้องเป็นคนในพื้นที่รอบๆ เหมืองทองอัครา ส่วนอีก 10% ก็จะเป็นผู้ที่มีความสามารถเฉพาะทางเท่านั้น
นายเชิดศักดิ์ กล่าวด้วยว่าระหว่างที่รออนุญาโตฯพิจารณาชี้ขาด บริษัทแม่ได้มีการเจรจากับรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นไปในแนวทางที่ดี จึงเริ่มมีการเตรียมพร้อมที่จะเปิดเดินเครื่องการผลิตได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ตัวแทนของเหมืองทองอัครา ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมถึงโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต-ความเป็นอยู่-อาชีพการทำมาหากิน-การศึกษา และอื่นๆ ว่า เหมืองทองอัครา มีกองทุนตามเงื่อนไขแนบท้ายรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมเม็ดเงินหลายร้อยล้านบาท สำหรับการชดเชยเยียวยาประชาชนที่อยู่รอบเหมืองทองอัคราหากเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
ขณะที่นายกฤษณะ ก้อนแก้ว นายก อบต.เขาเจ็ดลูก , นางสาวฉัตรนภา เมืองแป้น นายก อบต.ท้ายดง ผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมประชุม ได้แสดงความคิดเห็นว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านเข้าถึงกองทุนต่างๆของเหมืองทองอัคราได้ยากมาก ทำโครงการเสนอไปก็มักถูกคณะกรรมการกองทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายราชการและนักวิชาการ ฯลฯ ซักฟอก-ซักถาม-ส่งกลับให้ทำมาใหม่ ตรงข้ามกับโครงการที่เป็นของนักวิชาการกลับผ่านการพิจารณา ทำให้ชาวบ้านรอบเหมืองไม่เห็นค่า ไม่เห็นความสำคัญของกองทุนต่างๆเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของความวุ่นวายและข้อเรียกร้องต่างๆนานายาวนาน