จันทบุรี - วิกฤตหมูแพงกระทบร้านหมูย่างชื่อดัง "หมูย่างยืนกินป้าหยุด" อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ขายนาน 37 ปี เพิ่งได้เห็นหมู กก.ละกว่า 200 บาท แจงราคาวัตถุดิบขึ้นทุกชนิดไม่เว้นแม้แต่ข้าวเหนียว ยันแม้ไม่มีกำไรก็จะขอสู้ต่อไป
วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สายหยุด เนินไชย อายุ 55 ปี เจ้าของร้านหมูย่างชื่อดัง "หมูย่างยืนกินป้าหยุด" ซึ่งเปิดขายในตลาดท่าใหม่ อ ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ถึง 21.00 น.นานกว่า 37 ปี ว่า ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาหมูแพงจนต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าเครื่องเทศ ถุง ถ่าน ร่วมถึงข้าวเหนียวที่ปรับราคาขึ้นอย่างมากเช่นกัน
"ราคาเนื้อหมูที่ซื้อล่าสุดในวันนี้อยู่ที่กิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 200 บาท ซึ่งถือว่าแพงมากที่สุดเท่าที่เคยขายหมูปิ้งมา และขณะนี้ขายหมูปิ้งที่ราคาไม้ละ 6 บาท ส่วนข้าวเหนียวถุงละ 5 บาท แต่ละวันต้องใช้เนื้อหมูมาก 7-10 กิโลกรัม แถมที่ผ่านมาเจอวิกฤตโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลง แต่เมื่อโควิดจางคิดว่าจะขายดีแต่ก็กลับมาเจอปัญหาหมูแพงขึ้นอีก"
เจ้าของร้าน "หมูย่างยืนกินป้าหยุด" ยังบอกอีกว่าแม้วันนี้ต้นทุนสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นก็ต้องยอมแบกรับเพราะค้าขายมานาน การจะปรับราคาขายใหม่เกรงใจลูกค้า และยังบอกอีกว่ารายได้ที่มีไม่มีเหลือเก็บจึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดไปก่อน และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังเทศกาลตรุษจีน และหากราคาเนื้อหมูยังไม่ลดลงอาจต้องจำใจปรับขึ้นราคา
"ช่วงนี้ขายได้น้อยลงเพราะลูกค้าไม่ค่อยออกมาหาซื้ออาหารกัน ส่วนราคาหมูที่แพงขึ้นทำให้รายได้น้อยลงกว่าเดิมแต่ต้องจ่ายค่าแรงลูกจ้างเหมือนเดิม เมื่อก่อนซื้อหมูกิโลกรัมละ 150 บาท ก่อนจะขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงกิโลกรัมละกว่า 200 บาท แต่ยังขายหมูในราคาไม้ละ 6 บาทเท่าเดิมและยังไม่ขึ้นราคา"
ป้าสายหยุด ยังบอกอีกว่า สิ่งที่อยากฝากคือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลราคาหมู เพราะตอนนี้สงสารทั้งตัวเอง และคนกินเป็นอย่างมาก และแม้จะไม่เห็นกำไรแต่ก็ยังคงต้องขายต่อไป เพราะจะให้ขายอย่างอื่นคงไม่ไหวและจะขายหมูปิ้งต่อไป