xs
xsm
sm
md
lg

ไม่สนหมู-ไก่แพง ชาวศรีราชาหันหาเนื้อจระเข้ราคาถูกกว่าเท่าตัว ทำยอดผลิต 1 ตันต่อวัน “ศรีราชาฟาร์ม” ไม่พอขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา “ศรีราชาฟาร์ม” หนุนคนไทยบริโภคเนื้อจระเข้แทนเนื้อหมูและไก่ในช่วงราคาแพง ชี้คุณค่าทางโภชนาการเพียบ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ อุดมด้วยโปรตีนและคอลลาเจน ไม่มีไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซ้ำราคาถูกกว่าถึงเท่าตัว เผยขณะนี้ยอดผลิต 1 ตันต่อวันไม่พอขาย ยันไม่ขึ้นราคา

จากภาวะราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการลดปริมาณการเลี้ยงหมูของผู้ประกอบการ และปัญหาโรคระบาดรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาหมูเนื้อแดงขยับถึงกิโลกรัมละ 300 บาท และสถานการณ์อาจเป็นเช่นนี้อีกนานหลายเดือน ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ราคาเนื้อไก่ และไข่ไก่ในตลาดปรับตัวสูงตามจากภาวะความต้องการของตลาด จนทำให้ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ต้องกำหนดแนวทางแก้ไขต่างๆ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน

แต่ล่าสุด มีประชาชนจำนวนมากเริ่มหันมาบริโภคเนื้อจระเข้ที่มีราคาถูกกว่ากันถึง 1 เท่าตัวส่งผลให้ฟาร์มเลี้ยงหลายแห่งเริ่มปรับรูปแบบการผลิตเนื้อจระเข้เพื่อส่งขายในประเทศไทยทดแทนการส่งออกต่างประเทศที่ประสบปัญหาจากการระบาดของโรคโควิด-19

เช่นเดียวกับ นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ผู้จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์จากจระเข้ และฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ของ จ.ชลบุรี เผยว่าขณะนี้ยอดการผลิตเนื้อจระเข้เพื่อป้อนตลาดผู้บริโภคใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และใกล้เคียงที่มีประมาณ 1,000 กิโลกรัมต่อวัน เริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ หลังประชาชนหันมาบริโภคเนื้อจระเข้แทนเนื้อหมูและไก่มากขึ้น

พร้อมยืนยันว่า แม้เนื้อจระเข้จะเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดเนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก ทั้งอุดมด้วยโปรตีนที่มีสูงกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ และยังไม่มีไขมันที่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ให้พลังงานสูง และแคลอรีต่ำ จึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนรักสุขภาพ และเริ่มเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ค้าเนื้อสัตว์ที่เริ่มมองหาเนื้ออื่นทดแทนเนื้อหมูและไก่


ผู้ค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่เริ่มติดต่อนำเนื้อจระเข้เข้ามาขาย

นายสุเมธ ยังบอกอีกว่า แม้ขณะนี้ศรีราชาฟาร์มจะเริ่มมีผู้ค้ารายใหญ่ติดต่อขอเป็นตัวแทนนำเนื้อจระเข้เข้าขายให้ห้างค้าปลีกและส่งรายใหญ่หลายแห่งแล้ว แต่บริษัทจะไม่ปรับขึ้นราคาขายเนื้อจระเข้อย่างแน่นอน และยืนยันว่าในวันนี้ยังคงขายส่งให้คู่ค้าที่ซื้อเนื้อจระเข้ตั้งแต่ 30 กิโลกรัมขึ้นไป ในราคากิโลกรัมละ 85 บาท และราคาขายปลีกที่กิโลกรัมละ 120 บาท

"ก่อนเกิดสถานการณ์เนื้อหมู-ไก่แพงเราผลิตเนื้อจระเข้เพื่อการส่งออกมากถึง 70% และส่งขายในประเทศเพียง 30% แต่ในช่วงนี้สัดส่วนการขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% แล้ว และหากความต้องการยังสูงอยู่เชื่อว่าจะสามารถขยับขึ้นได้อีก 30% และจะทำให้บริษัทฯ สามารถปรับลดสัดส่วนการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ให้เหลือเพียง 20% ได้”

นายสุเมธ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้เร่งประชาสัมพันธ์เรื่องประโยชน์และคุณค่าทางอาหารของเนื้อจระเข้ให้ประชาชนได้รับทราบผ่านเพจของศรีราชาฟาร์ม และการประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งแนบใบรับรองคุณภาพต่างๆ ที่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมประมง และยังได้มาตรฐาน GMP ที่สามารถยืนยันได้ถึงความสะอาดและปลอดภัย เช่นเดียวกับเรื่องการป้องกันสารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ที่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานอุตสาหกรรมทุกปี

“เราไม่กลัวเรื่องเนื้อจระเข้จะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด หากราคาเนื้อหมูและไก่ยังแพงต่อเนื่อง เพราะเรามีเนื้อจระเข้ที่ผลิตและได้ทำการสต๊อกไว้เพื่อส่งออกเป็นจำนวน และหากประชาชนหันมาบริโภคเนื้อจระเข้มากขึ้นจนทำให้สินค้าที่เราสต๊อกไว้ลดลงเกิน 50% เราพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในทันที”


ขณะที่เนื้อจระเข้และผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ที่ผลิตจากศรีราชาฟาร์มจะใช้จระเข้ที่มีอายุประมาณ 4 ปี ซึ่งถือว่ามีความสมบูรณ์มากที่สุด จึงทำให้ได้รับความสนใจจากตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องจนทำให้มียอดการส่งออกเนื้อจระเข้ ทั้งเนื้ออบแห้ง เนื้อสด กระดูกอ่อน บ้องตัน (หางจระเข้) และอุ้งเท้าจระเข้ มากถึง 100 ล้านบาทต่อปี 

กระทั่งเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้การส่งออกทั้งเนื้อและผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ลดน้อยลง และบริษัทฯ ได้ปรับรูปแบบการขายด้วยการเน้นตลาดในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ที่ตลอดปี 2564 บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชันลดราคาสินค้า 70% เพื่อกระตุ้นตลาดในกลุ่มคนไทยจนสามารถทำให้ยอดขายในประเทศที่เคยมีประมาณ 30% กระเตื้องขึ้นถึง 50% 

และในปีนี้คาดว่าจะสามารถเพิ่มได้อีก 30% จากการออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนไทย ส่วนการบริโภคเนื้อจระเข้ในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่แพง


โดยปัจจุบัน ศรีราชาฟาร์มมีจระเข้ที่เลี้ยงอยู่ในบ่อต่างๆ รวม 180 บ่อ จำนวน 140,000 ตัว โดยแต่ละบ่อจะเลี้ยงจระเข้ได้ประมาณ 200 ตัว และขณะนี้มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เพาะเองซึ่งมีอายุประมาณ 40-50 ปีประมาณ 20% ของจำนวนจระเข้ทั้งหมด
 
“เชิญชวนให้คนไทยหันมารับประทานเนื้อจระเข้ เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารที่สูงมากแล้ว ยังมีแคลอรีที่ต่ำมาก อีกทั้งยังไม่มีไขมันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจึงเหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพทุก ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลายคนอาจไม่กล้ารับประทานเนื้อจระเข้ แต่ในวันนี้คงถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะหันมาเปิดใจรับประทานเนื้อจระเข้ เป็นเนื้อทางเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมากแทนเนื้อหมูและไก่ที่มีราคาแพง” นายสุเมธ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น