ชัยนาท - รองผู้ว่าฯ ชัยนาท เข้มตรวจตลาดสดภาษีซุง ตลาดใหญ่สุดในเมืองชัยนาท หลังพบมาตรการป้องกันโรคเกิดความหละหลวม หวั่นเป็นจุดเสี่ยงระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเลื่อนจัดงานมหกรรมหุ่นฟางนก โดยไม่มีกำหนด
วันนี้ (13 ม.ค.) นายนที มนตริวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท พร้อมสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยนาท และสาธารณสุขเทศบาลเมืองชัยนาท ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตลาดสดภาษีซุง ซึ่งเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเมืองชัยนาท หลังพบว่า การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของทางตลาดเกิดความหละหลวม เนื่องจากทางเข้าออกตลาดมีอยู่หลายจุด แต่บางจุดกลับไม่มีจุดคัดกรองและไม่มี อสม.มาคอยดูแล ทำให้เสี่ยงที่จะมีคนนำพาเชื้อเข้าไปแพร่ระบาดในตลาดได้
รองผู้ว่าฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการปิดทางเข้าออกตลาดตรงจุดที่ไม่มีจุดคัดกรอง แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้คณะกรรมการตลาด และพ่อค้าแม่ค้าบางราย เพราะคิดว่าทางจังหวัดจะไปปิดตลาดไม่ให้ขายของ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อรองผู้ว่าฯ ได้พูดคุยกับคณะกรรมการตลาด ให้เข้าใจตรงกันว่าทางจังหวัดไม่ได้จะมาปิดตลาด แต่ต้องการให้ทางตลาดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเข้มข้นมากขึ้น เพื่อป้องกันเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดเกือบทั่วภูมิภาคของประเทศอยู่ในขณะนี้ ทำให้คณะกรรมการตลาดและพ่อค้าแม่ค้าเข้าใจ และพร้อมปฏิบัติตามที่ทางจังหวัดแนะนำ โดยทำการปิดทางเข้าออกตลาด บริเวณด้านหลัง 2 จุด และตั้งจุดคัดกรอง 6 จุด ให้มี อสม.คอยดูแลให้ผู้ที่จะเข้าไปซื้อของในตลาด ต้องตรวจวัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท พบว่ามีคลัสเตอร์เกิดขึ้นหลายพื้นที่ที่เกิดจากการเดินทางและสังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น คลัสเตอร์พนักงานห้างโลตัส คลัสเตอร์ ม.5 ต.บ้านกล้วย คลัสเตอร์ ม.3 ต.หาดอาษา คลัสเตอร์วงดนตรี คลัสเตอร์ ม.13 ต.เนินขาม ที่มีผู้ติดเชื้อรักษาอยู่รวม 87 ราย ด้วยเหตุนี้ นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท จึงสั่งเลื่อนการจัดงานมหกรรมหุ่นฟางนก ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นงานประเพณีที่มีหนึ่งเดียวในโลก ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 4-13 กุมภาพันธ์นี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ยังสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอทุกแห่ง ทำการสุ่มตรวจ ATK กับพนักงานหรือบุคลากรในร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบกิจการใดๆ ที่มีพนักงาน ผู้ดูแล บุคลากรตั้งแต่ 11 คนขึ้นไป โดยให้สุ่มตรวจ ATK ทุกวัน วันละไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด แบบไม่ซ้ำราย
รวมทั้งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ สอดส่อง เฝ้าระวัง และติดตามให้สถานประกอบการต่างๆ ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด หากพบสถานประกอบการใด ย่อหย่อน เป็นเหตุให้เกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อน ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดทันที
