เชียงใหม่-เชียงใหม่พบติดเชื้อโควิด-19รายวันเพิ่ม 298 ราย ไม่นับรวมตรวจATKเจอผลบวกอีก 211 ราย ชี้ตัวเลขพุ่งขึ้นหลังเทศกาลปีใหม่เป็นไปตามความคาดหมาย รับสภาพ “โอมิครอน” เป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดแล้ว เน้นย้ำขอความร่วมมือประชาชนลดการเคลื่อนไหวและงดกิจกรรมรวมกลุ่ม คาดควบคุมสถานการณ์อยู่ภายใน 2 สัปดาห์ เตรียมชงเรื่องสั่งปิดร้านอาหารขายเหล้าหย่อนยาน COVID Free Setting
ช่วงเย็นวันนี้ (6 ม.ค. 65) นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ และแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ผ่านมา โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่ พบการระบาดเหมือนกับพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศและโลก ซึ่งเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเป็นหลัก โดยเฉพาะหลังเทศกาลปีใหม่ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นไปตามความคาดหมาย ซึ่งในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 298 ราย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ทรงตัว ขณะที่การตรวจATK จำนวน 1,544 ราย พบผลเป็นบวก 211 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระบบการรักษาแบบ Home Isolation นั้น เวลานี้มีทั้งหมด 316 ราย ซึ่งระบบนี้ยังคงรองรับผู้ติดเชื้อได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยรองรับได้กว่า 4,000 รายมาแล้ว
สำหรับการระบาดในระลอกนี้เบื้องต้นน่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนกว่าครึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดและน่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดแล้ว ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยัน 44 รายนั้น เป็นการสุ่มตรวจและพบในหลายคลัสเตอร์ที่มีการระบาด จึงสันนิษฐานได้ว่าผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์น่จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน อย่างไรก็ตามยอดผู้ป่วยหนักไม่ได้เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนจะสามารถแพร่กระจายและติดเชื้อได้เร็วแต่มีความรุนแรงไม่มาก ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้เร่งดำเนินการควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด และคาดว่าการระบาดในระลอกนี้จะใช้ระยะเวลาไม่นาน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนชาวเชียงใหม่สังเกตอาการตนเอง ลดการเคลื่อนไหว งดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ และให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของตนเอง และลดความรุนแรงจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถ Walk in เข้ารับการฉีดวัคซีนได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการติดตามสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน มีการติดตามวางแผนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีชาวเชียงใหม่ก็เดินทางไปต่างจังหวัดมากเช่นกัน และมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมสังสรรค์ต่างๆ ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาตรการสอดรับนโยบายของรัฐบาล โดยการให้หน่วยงานราชการต่างๆ และขอความร่วมมือหน่วยงานเอกชน Work Form Home เป็นระยะเวลา 14 วัน และขอความร่วมมือสถานประกอบการลดจำนวนพนักงานทำงานในบริษัทลง เพื่อลดความแออัด แต่ทั้งนี้ต้องไม่กระทบต่อการให้บริการประชาชน พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงดกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก และแจ้งสั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขเตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วย
ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มที่ไปใช้บริการที่ร้านจำหน่ายอาหารซึ่งเปิดให้บริการดื่มแอลกอฮอล์ได้ ด้วยเหตุนี้จะได้มีการเสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาสั่งปิดร้านอาหารที่พบข้อมูลการแพร่ระบาด และไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting โดยจะสั่งปิดเป็นเวลา 7-14 วัน เพื่อทำความสะอาด คัดกรองตรวจหาเชื้อในกลุ่มพนักงาน หากไม่ดำเนินตามมาตรการ COVID Free Setting จะได้ดำเนินคดีตามกฏหมาย และเน้นย้ำร้านอาหารให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ส่วนร้านอื่น ๆ จะเพิ่มความเข้มงวด เช่น งดการใช้เครื่องปรับอากาศในห้องอาหารที่มีขนาดจำกัด การตรวจ ATK พนักงานในร้านเป็นประจำทุก 3 วัน และตรวจ ATK ผู้ที่เข้าใช้บริการด้วย และจะได้มีการประกาศขยายเวลางดเรียน On-Site ต่อไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล งดการไปนั่งทานอาหารในร้านที่เป็นมุมอับ งดการรวมกลุ่ม และระมัดระวังตนเอง ตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด